ทำไมนวัตกรรมถึงสำคัญกับองค์กร และสำคัญมากยิ่งขึ้นในยุค AI | Techsauce

ทำไมนวัตกรรมถึงสำคัญกับองค์กร และสำคัญมากยิ่งขึ้นในยุค AI

ถ้าเราใช้วิธีเก่า ในการแก้ปัญหาใหม่ หรือถ้าเราใช้โมเดลธุรกิจเดิม กับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลลัพธ์จะออกมาไม่ดีนัก และทางออกของปัญหาที่เราอยากชวนทุกคนมารู้จักก็คือการสร้าง Corporate Innovation

Corporate Innovation คืออะไร

Corporate Innovation หมายถึงการนำความคิดใหม่ วิธีใหม่ กลยุทธ์ใหม่ หรือผลิตภัณฑ์บริการใหม่ ที่สามารถแก้ปัญหาและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้องค์กรได้

ยกตัวอย่างแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลกอย่าง IKea ที่ขายสินค้าในรูปแบบ flat pack หรือการแพ็คสินค้าให้แบน ทุกชิ้นส่วนสามารถถอดประกอบได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นไอเดียที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่แต่เดิมมีความยากลำบาก จึงกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ที่นอกจากจะช่วยลดค่าขนส่งแล้ว ยังสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ดีไซน์สวย ประกอบใช้งานสะดวกสบายมัดใจลูกค้า

ภาพจาก : Ikea

แต่นวัตกรรมไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของเสมอไป ไม่จำเป็นต้องเป็นสุดยอดเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก มันอาจจะเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยก็ได้ แต่สร้างผลกระทบได้มหาศาล

นวัตกรรมยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นโซลูชั่นใหม่ ที่สามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้ไปข้างหน้า ทั้งในแง่ของการแก้ปัญหาภายในองค์กร ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าให้ได้ ซึ่งแน่นอนนวัตกรรมที่ดีนอกจากจะช่วยเพิ่มเม็ดเงินให้ธุรกิจ ยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และประสิทธิภาพของคนในองค์กรได้ในเวลาเดียวกัน

อ่านบทความ Corporate Innovation ที่แท้จริงคืออะไร ? เมื่อการพัฒนาองค์กร ไม่ได้จบเพียงแค่นำเทคโนโลยีมาใช้

ทำไม Corporate Innovation ถึงสำคัญและจะสำคัญมากขึ้นอีก 

ช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก ธุรกิจทั่วโลกหยุดชะงัก วิกฤตครั้งใหญ่ทำให้เราเห็นว่าหลายธุรกิจไม่สามารถไปต่อได้ เพราะสิ่งที่บริษัทเคยทำแล้วประสบความสำเร็จ ทำแล้วมีผลกำไรงอกเงย ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะโลกเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน พฤติกรรมคนเปลี่ยน เทคโนโลยีและเทรนด์ธุรกิจก็เปลี่ยนเช่นกัน โดยเฉพาะบริษัท Startup ผู้ซึ่งจิตวิญญาณและ DNA ของธุรกิจจะต้องสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ แต่ 90% ของ Startup ที่ล้มเหลว เป็นเพราะไม่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมได้

ในอีกด้านหนึ่ง วิกฤตทำให้หลายธุรกิจพบทางสว่าง เมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องเปลี่ยน ต้องใช้วิธีใหม่ในการเข้าถึงลูกค้า ใช้ช่องทางใหม่ในการขาย ใช้กลยุทธ์ใหม่ กลายเป็นการสร้าง Business Model ใหม่ๆ มากมายช่วงหลายปีที่ผ่านมา และได้ค้นพบว่าเราสามารถยกระดับธุรกิจให้ดีกว่าอดีตได้

ต่อจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอีกกี่วิกฤต ถ้าธุรกิจทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น พร้อมแสวงหาโอกาสที่เกิดจากอุปสรรคนั้น ก็สามารถสร้างการเติบโตในระยะยาวได้ รายงานจาก McKinsey ชี้ว่า ตามประวัติศาสตร์และสถิติบริษัทที่ลงทุนในนวัตกรรม จะมีอัตราการเติบโตและประสิทธิภาพที่ดีกว่า หลังผ่านพ้นวิกฤตไปแล้ว

ภาพจาก : McKinsey 

ถ้าพาย้อนเวลากันสักหน่อย เพื่อให้เห็นภาพเราจะพบว่า โมเดลเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (Sharing economy) เกิดขึ้นหลังวิกฤตการเงินปี 2009 การระบาดของโรคซาร์สในเอเชีย ทำให้ธุรกิจ e-Commerce เริ่มแพร่หลายมากขึ้น และทำให้จีนกลายเป็นตลาดสำคัญ เช่นเดียวกับโควิด-19 ที่ทำให้อีกหลายโมเดลธุรกิจเกิดขึ้นมา การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โลกร้อน ทำให้มนุษย์พยายามสร้างนวัตกรรมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ รถยนต์ไฟฟ้า หรืออาหารที่ทำจากพืช

ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างสิ่งใหม่เพื่อต่อสู้กับปัญหาที่เราเผชิญ และยิ่งย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของโอกาสของธุรกิจกับการลงทุนสร้างนวัตกรรม

AI จะช่วยสร้างนวัตกรรม ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้กลายเป็นจริง 

ก้าวเข้าสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เขย่าวงการธุรกิจ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ หลังการเกิดขึ้นของ ChatGPT ทำให้ทั่วทั้งอุตสาหกรรมกำลังตื่นตัว และ AI เองก็จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างนวัตกรรมด้วย

AI-driven innovation หรือการประยุกต์ใช้ AI ในกระบวนการสร้างนวัตกรรมจะมีบทบาทสำคัญนับจากนี้ โดยมนุษย์จะใช้ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจ การมองแนวโน้มเทรนด์และตลาด และเพื่อทลายข้อจำกัดที่เคยมีในอดีต หรืออาจสอดแทรกความสามารถของ AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ บริการ และกระบวนการทางธุรกิจ เพื่อแก้ปัญหาและเพิ่มขีดความสามารถ เป็นต้น

ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Startup ด้าน BioTech แห่งหนึ่งในฮ่องกง ประสบความสำเร็จในการใช้ AI เพื่อคิดค้นยารักษาโรคพังผืดในปอดที่ไม่ทราบสาเหตุ (idiopathic pulmonary fibrosis - IPF) เป็นยาตัวแรกในโลกที่ AI เป็นทั้งผู้ค้นพบวิธีการทำงานของโรคและกระบวนการในร่างกาย รวมถึงยังออกแบบและวิเคราะห์การทำงานของตัวยาให้สอดคล้องกับสาเหตุการเกิดโรค

นอกจากตัวอย่างในกลุ่มการดูแลสุขภาพ ปัจจุบันเรายังเห็นการใช้เครื่องมือ AI ในอีกหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นภาคการเงิน การเกษตร การผลิต ความบันเทิง การศึกษา สังคมและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ประกอบกับพลังความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ในยุค AI นี้อาจเป็นโอกาสให้ธุรกิจสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตรงจุด ตอบโจทย์ได้ง่ายและเร็วมากขึ้น จึงอาจบอกได้ว่านี่เป็นโอกาสที่ต้องรีบคว้าไว้ 

อ้างอิง : imd , ikea , mckinsey 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เส้นทางของ Kakao จากสตาร์ทอัพสู่หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลแถวหน้าในอุตสาหกรรมบันเทิง

สตาร์ทอัพที่เริ่มต้นด้วยคนเพียง 2 คน สู่อาณาจักรไอทียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ บทความนี้ Techsauce จะชวนดูความสำเร็จของ ‘Kakao’ บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 24.7 ล้านล้านวอน หรือราว 6.7 ...

Responsive image

เจาะกลยุทธ์ ‘ปรับแต่ไม่เปลี่ยน’ ที่ IKEA ร้านเฟอร์นิเจอร์เก่าแก่เอาตัวรอดในยุคดิจิทัล

กลยุทธสำคัญอย่าง ‘ปรับแต่ไม่เปลี่ยน’ ที่ทำให้ IKEA สามารถรักษาเอกลักษณ์อันโดดเด่นของบริษัท ไปพร้อมกับการปรับตัวท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง...

Responsive image

5 ปัญหาหลักของ HR เมื่อต้องเฟ้นหา Tech Talent ให้ตอบโจทย์องค์กร

5 ปัญหาหลักของ HR เมื่อต้องเฟ้นหา Tech Talent ให้ตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่ ด้วย TalentSauce ครอบคลุมทุกความต้องการในการจ้างงาน...