ปิดฉากอย่างสวยงามกับงาน Techsauce Global Summit 2019 งาน Tech Conference ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน SEA ซึ่งในปีนี้ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ยอดผู้เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกือบเท่าตัว ตอบรับการปรับแนวทางการจัดงานและเนื้อหาที่หลากหลายเข้าถึงคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย
คุณอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท Techsauce Media กล่าวว่า “ปีนี้ถือว่า Techsauce Global Summit ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด โดยตัวเลขผู้ร่วมงานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกือบเท่าตัวอยู่ที่ 15,000 – 20,000 คน มีสตาร์ทอัพมาร่วมงานกว่า 500 บริษัท และมาออกบูธ 126 บูธ ซึ่งที่น่ายินดีกว่ายอดจำนวนคนเข้างาน คือเราได้เห็นว่ามีคนหลากวัย หลากกลุ่มเข้ามาร่วมงานมากขึ้น เราได้เห็นตั้งแต่เด็กตัวเล็กๆ ที่มากับพ่อแม่ผู้ปกครอง เด็กนักเรียน นักศึกษา ให้ความสนใจกับเทคโนโลยีและเรื่องราวในงานนี้ ไม่ได้มีแค่สตาร์ทอัพและคนในแวดวงอุตสาหกรรมไอที แสดงถึงการตื่นตัวต่อการที่เทคโนโลยีจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลก โดยทั้ง 13 เวทีตลอด 2 วันของการจัดงานก็ได้รับความสนใจมากทุกเวที
นอกจากนั้นในปีนี้ Techsauce Global Summit ให้ความสนใจกับเรื่องผลกระทบทางสังคมและการใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหาสังคม โดยประเด็นการเสวนาที่เป็นไฮไลท์มีทั้งเรื่องการศึกษา (เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนรู้ของเราอย่างไร, การสอนให้เด็กเรียนรู้ด้วยตัวเอง) โดยปีนี้เรายังได้ CEO รุ่นเยาว์มาแชร์ประสบการณ์ด้วย น่าจะเป็นแรงบันดาลใจดีๆ ให้กับคนรุ่นใหม่ว่าเราสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อนำพาโลกไปในทิศทางที่ดีกว่าเดิมได้ และการเสวนาในประเด็น การนำเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันและวิธีใช้ข้อมูล (Data) ในการเปลี่ยนแปลงเมืองที่เราอาศัยอยู่ การนำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาเกี่ยวกับพลังงานสะอาด ซึ่งหวังว่างาน Techsauce จะสามารถให้คำตอบหรือแนวทางที่ช่วยให้คนสามารถอยู่ร่วมกับโลกได้ดีต่อไป”
ด้านคุณอมฤต เจริญพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง ฮับบ้า ไทยแลนด์ กล่าวว่า “Techsauce Global Summit มีความตั้งใจที่จะเชื่อมโยงนวัตกรรม เทคโนโลยี ผู้ประกอบการ และคนทั่วโลกเข้าด้วยกัน ซึ่งในปีนี้เราได้เริ่มเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นแล้ว เรามีเพื่อนๆ ในวงการจากทั่วทุกมุมโลกมารวมกันอยู่ที่นี่กว่า 50 ประเทศ และปีนี้กิจกรรม Techsauce Global Summit Pitch Championship 2019 ได้กลับมาอีกครั้ง และคึกคักมากขึ้น โดยเราได้ผู้ชนะคือ ทีม Medlink Investment จากกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งได้เงินรางวัล 1 ล้านบาทไป และยังคว้ารางวัลพิเศษจากพันธมิตรเราไปด้วย โดย Medlink เป็นแพลตฟอร์มสื่อกลางระหว่างบริษัทยาและร้านขายยาเข้าด้วยกันโดยตรง เพื่อช่วยลดต้นทุนการจัดจำหน่าย
สำหรับบริษัทยา และเพิ่มยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพให้แก่ร้านขายยา โดยคาดว่าในอนาคตจะมีการขยายวงกว้างออกไปมากยิ่งขึ้น นี่จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่นำเอาเทคโนโลยีมาเชื่อมโยงเพื่อนบ้านเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งดีๆ ระหว่างกัน”
โดยวิทยากรชั้นนำที่มาร่วมงานอย่าง มาร์ติน ฟอร์ด ผู้เขียนหนังสือ Rise of the Robots ที่ได้ปาฐกถาในหัวข้อ “The Coming Disruption: What Everyone Must Know About AI and Robotics” ซึ่งกล่าวถึงสิ่งที่คนควรรู้เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์ (Robotics) ว่า AI จะเข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าของการทำธุรกิจ เรากำลังมุ่งสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ (disruption) ซึ่งเป็นยุคใหม่ที่สิ่งต่างๆ ดำเนินไปด้วยกฎเกณฑ์ที่แตกต่างจากเดิม AI จะทำให้หลายอาชีพหายไปเพราะเทคโนโลยี แต่ก็จะมีอาชีพใหม่ๆ ที่เรานึกไม่ถึงเกิดขึ้นด้วย โดยสิ่งที่น่าสังเกตคือ หุ่นยนต์มักจะถูกนำมาใช้ในการทำงานที่ต้องทำเหมือนเดิมซ้ำๆ อย่างงานที่ใช้แรงงาน (blue-collar jobs) และเริ่มแพร่ขยายมาถึงงานในสำนักงาน (white-collar jobs)
ดังนั้นคนรุ่นต่อไปต้องหลีกเลี่ยงงานที่ทำซ้ำๆ และคาดเดาได้ แล้วหันไปเน้นเรื่องความคิดสร้างสรรค์ อาชีพที่เสนอขายไอเดียใหม่ๆ รวมถึงอาชีพเกี่ยวกับการสานสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมนุษย์ จากแนวโน้มในปัจจุบัน มีคนจำนวนมากที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เราจึงจำเป็นต้องร่วมกันคิดว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถสร้างสังคมที่ดีสำหรับทุกคน เราไม่ต้องการทิ้งศักยภาพมหาศาลของ AI ที่จะช่วยให้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้นต้องหารือกันอย่างเปิดเผยว่าเราจะใช้ AI อย่างไรเพื่อสร้างสังคมที่เอื้ออำนวยต่อทุกภาคส่วน”
และอีกหนึ่งไฮไลท์สปีกเกอร์ในวันที่สองของการจัดงาน ซึ่งทุกคนต่างประทับใจคือ Audrey Tang รัฐมนตรีดิจิทัลของไต้หวัน ซึ่งเป็นอดีตแฮกเกอร์สาวข้ามเพศอัจฉริยะ ที่พร้อมขับเคลื่อนประชาธิปไตยโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วย โดยเธอได้กล่าวปาฐกถาเรื่อง “Giving Voices the Power to Change Nations: AI, Democracy, and Social Listening” ซึ่งแบ่งปันเรื่องราวในฐานะรัฐมนตรีดิจิทัล ซึ่งมีสำนักงานเปิดที่ทุกคนสามารถเข้ามาพูดคุยกับเธอได้ โดยมีเงื่อนไขว่าบทสนทนาจะถูกจัดทำเป็นเอกสารและเผยแพร่สู่สาธารณะ โดยเกิดเป็นการแบ่งปันความคิดและนำไปสู่โครงการนำร่อง โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างโอกาสให้กับทุกคนอย่างเป็นธรรม และทำให้เห็นถึงการทำงานของเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ นอกจากนั้นเธอยังพูดถึง sandbox.org.tw เป็นแพลตฟอร์มที่อนุญาตให้ชาวไต้หวันแสดงความคิดเห็นและนำไปใช้จริง เพื่อดูว่าดีกว่าแนวคิดที่มีอยู่เดิมหรือไม่ หากความคิดนั้นๆได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทำงานได้จริงมันจะกลายเป็นข้อบังคับใหม่ แต่ถ้ามันล้มเหลวมันเป็นประสบการณ์การเรียนรู้
นอกจากนั้น ออเดรย์ ยังกล่าวอีกว่า “ประชาชนไม่จำเป็นต้องไว้ใจรัฐบาล รัฐบาลต่างหากที่ต้องไว้ใจประชาชน และประชาชนควรไว้ใจซึ่งกันและกัน”
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานเท่านั้นยังมีเรื่องราว เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เกิดขึ้นในงาน Techsauce Global Summit ยังคงมีเป้าหมายสูงสุดในการพัฒนางานในปีต่อๆ ไป และก้าวสู่สุดยอดงานประชุมด้านเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในเอเชีย โดยขณะนี้ได้เปิด Flash Sale ขายบัตรสำหรับปีหน้าคือ Techsauce Global Summit 2020 แล้ว ซึ่งในวันเดียวมียอดซื้อบัตรเข้ามาแล้วกว่า 600 ใบ และมีการจองบูธเข้ามากว่า 20 บูธ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://summit.techsauce.co และ https://www.facebook.com/techsauceTH
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด