VinFast รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนาม บทพิสูจน์ว่าอุตสาหกรรมนี้ ไม่ได้มีแค่พื้นที่ของมหาอำนาจ | Techsauce

VinFast รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนาม บทพิสูจน์ว่าอุตสาหกรรมนี้ ไม่ได้มีแค่พื้นที่ของมหาอำนาจ

เป็นที่รู้กันดีว่า ณ ตอนนี้หลายๆ บริษัทชื่อดังด้านเทคฯ ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) หรือ EV ซึ่งผู้เล่นที่ลงเล่นในสนามของรถยนต์ไฟฟ้าตอนนี้ส่วนใหญ่นั้นมาจากประเทศมหาอำนาจ อย่างจีน และอเมริกา ตัวอย่างเช่น Apple ที่วางแผนจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกับ Hyundai หรือจะเป็น Alibaba ที่ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วโดยได้ร่วมมือกับ SAIC Motor ทำให้หลายๆ คนมองเห็นแนวทางแล้วว่าในอนาคตคงจะมีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบไร้คนขับออกมาจำหน่วยกันในตลาดอย่างมากมายแน่นอน แต่ถึงอย่างไรก็ตามกลับมีอีกหนึ่งบริษัทที่เป็นเหมือนม้ามืดของวงการรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาจากจีน หรืออเมริกา อย่าง VinFast ของเวียดนามที่ตอนนี้ได้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เตรียมจะออกจำหน่ายทั่วโลกทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ทำให้ตอนนี้ VinFast กลายเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปแล้ว และในบทความนี้จะพาไปรู้จักกับ VinFast เพื่อค้นหาข้อพิสูจน์ว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่แค่พื้นที่สำหรับประเทศมหาอำนาจอีกต่อไป

VinFast

รู้จัก VinFast บริษัทรถยนต์สัญชาติเวียดนาม 

VinFast เป็นบริษัทลูกของ VinGroup ของเวียดนาม ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2017 โดยมีความร่วมมือของบริษัทผลิตและออกแบบรถยนต์ชื่อดังอีกหลายบริษัทให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็น Pininfarina ของอิตาลี, BMW, Magna Steyr จากออสเตรีย, Bosch, Siemens และ General Motors หรือ GM ทำให้ VinFast กลายเป็นบริษัทออกแบบและผลิตรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพอีกแห่งหนึ่งในเวียดนาม

โดยส่วนใหญ่แล้ว VinFast จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ประเภท SUV และ Sedan นอกจากนี้ทาง VinFast ยังเป็นเจ้าใหญ่ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า (Electric Motorcycle) ในเวียดนามอีกด้วย โดยรถยนต์ส่วนใหญ่ของทาง VinFast นั้นได้มีการยืนยันว่าเป็นรถที่มีความปลอดภัยมากที่สุด จากการที่นำไปทดสอบใน 14 ประเทศ ของ 4 ทวีปทั่วโลก และยังได้รับ The 5-star safety certificate จาก NCAP Asia อีกด้วย

 VinFast ลงสนามรถยนต์ไฟฟ้า แซงหน้าทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ณ ตอนนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะมีหลากหลายบริษัทเทคโนโลยี ออกมายืนยันที่จะร่วมมือกับบริษัทผลิตและออกแบบรถยนต์หลายแห่ง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเหล่านี้ล้วนมีการปูพรมสำหรับวงการนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว อันจะเห็นได้จาก Android Auto, Apple CarPlay และ Baidu CarLife ของจีน 

นอกจากนี้รถยนต์ส่วนใหญ่ที่ผลิตออกมาในตอนนี้มีหลากหลายรุ่นที่จำเป็นต้องต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต โดยมีการรายงานว่าในปี 2018 รถส่วนใหญ่ที่ผลิตออกมาขายนั้นสามารถรองรับการใช้งานของ 5G ได้ จึงทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่อยากจะเข้ามาเล่นในวงการของรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้หลายๆ บริษัทผลิตรถยนต์นั้นหันไปเข้าร่วมกับบริษัทเทคเพื่อสร้างความเป็นไปได้ให้กับอนาคตของ EV และยังเป็นตัวช่วยสำหรับเพิ่มโอกาสในการลงทุน และเป็นการลดต้นทุนทางการผลิตได้อีกช่องทางหนึ่ง

VinFast

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมานี้เองทาง VinFast ได้มีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์อัจฉริยะ (Smart Car) ออกมา 3 รุ่นด้วยกัน คือ VF31, VF32 และ VF33 โดยทั้ง 3 รุ่นเป็นรถประเภท SUV ที่มาพร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 2 และ 3 และยังประกอบไปด้วย 30 สมาร์ทฟีเจอร์ที่สามารถแบ่งออกเป็น 7 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ ระบบผู้ขับขี่อัตโนมัติ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเลนแบบอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนการปะทะในหลายๆ จุดโดยมีกล้องรอบคันกว่า 14 จุด ระบบช่วยชะลอการปะทะ ระบบเข้าจอดอัตโนมัติ และระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ 

ทาง VinFast ได้มีการวางแผนที่จะเปิดให้จองรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น VF31, VF32 และ VF33 โดยจะเปิดให้จองในเวียดนามช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน และเปิดให้อเมริกา แคนาดา และยุโรบจองได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีนี้

นอกจากนี้ยังมีการเสริมฟีเจอร์บางตัวที่มาจากระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 4 เข้ามาด้วย ตัวอย่างเช่น แผนที่แบบ 3D และระบบที่สามารถเชื่อมต่อกับ Smart City ทำให้สามารถหาที่จอดรถ และเข้าจอดแบบอัตโนมัติ ทั้งนี้เพื่อต้องการให้ผู้ใช้งานรถยนต์ได้พบกับความสะดวก และทันสมัยแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

และในขณะเดียวกันหลายๆ บริษัทผลิตรถยนต์ก็ได้ออกมาแสดงจุดยืนแล้วว่าจะทำการพัฒนาและผลิต EV ออกมาเอง โดยเน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มการบริการและโปรโมชั่นต่างๆ ให้กับลูกค้า

และสำหรับ Roadmap ของ VinFast ที่วางไว้คือ ในอนาคตจะมีการผลิต สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า (VinBus) และรถยนต์ส่วนตัวไฟฟ้าอีกด้วย และเพื่อที่จะเป็นผู้นำด้านการผลิต EV นั้น VinFast ได้เข้าซื้อศูนย์วิจัยและพัฒนา EV ที่ออสเตรเลีย เยอรมัน และอเมริกา อีกทั้งยังเป็นเจ้าของสนามทดสอบรถยนต์ระดับเวิล์ดคลาสที่ออสเตรเลีย โดยทาง VinFast เชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยผลักดันให้ VinFast ก้าวขึ้นแท่นเป็นบริษัทผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก

เพราะรถ EV ไม่ใช่แค่พื้นที่ของมหาอำนาจ เมื่ออาเซียนก็เต็มไปด้วยศักยภาพ 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ในงาน Techsauce Global Summit ได้เชิญสองพี่น้อง Daniel และ Justin Kan จาก Silicon Valley โดย Daniel เป็นผู้ก่อตั้ง Cruise Automation สตาร์ทอัประบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่ GM หรือ General Motors เข้าซื้อกิจการไป ส่วน Justin Kan นั้นเป็นหุ้นส่วนกับ  Y Combinator ทั้งสองได้ให้มุมมองเมื่อ 5 ปีที่แล้วว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูงในอีก 5-10 ปีข้างหน้าจากการที่ประชากรล้วนสามารถเข้าถึง Internet ได้มากขึ้น 

ดังนั้นสิ่งที่สะท้อนได้ชัดเจนคือ การก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ลงแข่งขันในตลาด EV ของ VinFast ทำให้เห็นว่าตอนนี้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เริ่มมีความกระตือรือร้นที่จะหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้ากันเยอะขึ้น จากข้อมูลของ Frost & Sullivan รายงานว่า มี 6 ประเทศในอาเซียนที่ประชากรมีความต้องการที่จะซื้อรถ EV ใช้ภายในประเทศ ได้แก่ ฟิลลิปปินส์ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์ ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้การนำ EV มาใช้เป็นเรื่องที่ยากในประเทศกลุ่มอาเซียน จึงเกิดเป็นข้อเสนอแนะกับรัฐบาลของแต่ละประเทศให้จัดการรองรับการนำรถ EV มาใช้ในประเทศ เช่น การลดภาษีรถยนต์ การเพิ่มสถานีชาร์จแบตเตอรี่รถ EV การสร้างเลนพิเศษสำหรับรถ EV และการมีที่จอดเฉพาะสำหรับรถ EV เป็นต้น

ปัจจุบันแม้ว่าหลายๆ ประเทศในอาเซียนจะให้ความสนใจกับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับยังมีการนำมาใช้น้อยกว่าในยุโรปและอเมริกา ซึ่งส่วนใหญ่ที่เราสามารถพบเห็นได้จะเป็นรถบัสไฟฟ้าสำหรับโดยสารเท่านั้น แต่ในอนาคตนั้นจะต้องมีผู้ใช้รถ EV เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และจากการข้อมูลของ Bloomberg Energy Finance คาดการณ์ว่า รถที่ผลิตออกมาขายภายในปี 2040 จะมีถึง 54% ที่เป็น EV กล่าวโดยรวมก็คือจะมี 33% ของรถทั้งหมดบนโลกนี้ที่เป็นรถ EV นั่นเอง

การที่มีหลายๆ บริษัททั้งที่เป็นบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกออกมาเคลื่อนไหวเรื่องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั้น ถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของยานพาหนะ และถึงแม้ว่าตลาดของรถ EV ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นจะไม่ได้ใหญ่เท่าของมหาอำนาจอย่างจีน และอเมริกา แต่จากการก้าวหน้าขึ้นของ VinFast ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บอกได้ว่าในอนาคตกลุ่มประเทศอาเซียนจะสามารถขึ้นแท่นมาเป็นผู้นำด้านนี้ได้เช่นกัน


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เส้นทางของ Kakao จากสตาร์ทอัพสู่หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลแถวหน้าในอุตสาหกรรมบันเทิง

สตาร์ทอัพที่เริ่มต้นด้วยคนเพียง 2 คน สู่อาณาจักรไอทียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ บทความนี้ Techsauce จะชวนดูความสำเร็จของ ‘Kakao’ บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 24.7 ล้านล้านวอน หรือราว 6.7 ...

Responsive image

2024 ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยต้องโฟกัสอะไร? รู้จักกลยุทธ์ 2C โอกาสใหม่ของธุรกิจไทย เจาะปัจจัยหลักที่นักการตลาดดิจิทัลต้องรู้

บทความนี้ Techsauce จึงจะพามารู้จักกับ 2 กุญแจชิ้นสำคัญอย่าง Content & Convenience ที่กุมชะตาธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยในยุคดิจิทัล...

Responsive image

AirAsia MOVE ประกาศรีแบรนด์ดิ้งใหม่ สู่ผู้นำแพลตฟอร์มเดินทาง OTA แบบคุ้มครบจบในแอปเดียว พร้อมแพ็กเกจบินทั่วอาเซียนแบบไม่จำกัด

airasia Superapp ประกาศรีแบรนด์ดิ้งใหม่ในชื่อ AirAsia MOVE พร้อมปรับโฉมแอปพลิเคชันใหม่ และเสริมกลยุทธ์ด้านธุรกิจเพื่อผลักดันให้ AirAsia Move เป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์ม OTA (ตัวแทนด้านก...