เวียดนาม กับโอกาสที่ต้องคว้า: ธนาคารกสิกรไทย เปิดสาขาแรกที่โฮจิมินห์ เดินเกมรุกขยาย Digital Banking มุ่งสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 | Techsauce

เวียดนาม กับโอกาสที่ต้องคว้า: ธนาคารกสิกรไทย เปิดสาขาแรกที่โฮจิมินห์ เดินเกมรุกขยาย Digital Banking มุ่งสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3

เมื่อไม่นานมานี้ ธนาคารกสิกรไทย ได้เปิดสาขาใหม่ที่นครโฮจิมินห์อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นสาขาแรกในประเทศเวียดนาม และเป็นสาขาที่ 10 ในต่างประเทศ  โดยเป้าหมายของธนาคารกสิกรไทยในเวียดนาม ภายในปี 2565 จะต้องมียอดเงินฝาก 1,200 ล้านบาทและสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท พร้อมคาดในอีก 5 ปีจะสามารถสร้างฐานลูกค้าในเวียดนามได้ถึง 8 ล้านคน ซึ่งถือเป็นการดำเนินงานตามกลยุทธ์หลักในการขยายขีดความสามารถในการแข่งขันของธนาคารในการที่จะมุ่งไปสู่การเป็นธนาคารระดับภูมิภาค บทความนี้เราจะพาไปเจาะลึกกันถึงการตัดสินใจ โอกาสการเติบโต และกลยุทธ์ของธนาคารกสิกรไทยในเวียดนาม ในการผลักดันให้ก้าวไปถึงเป้าหมายที่วางไว้

เศรษฐกิจเวียดนาม กับโอกาสที่ต้องคว้า

เวียดนาม ประเทศที่เป็นหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่น่าจับตาไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะในแง่ของการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยช่วงปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่เศรษฐกิจทั่วโลกต้องเผชิญความท้าทายจากการแพร่ระบาดของ COVID-19  ส่งผลให้หลายภาคธุรกิจต้องหยุดชะงัก และกระทบกับการขยายตัวของ GDP ทั่วโลก แต่สำหรับเวียดนามกลับขยายตัวเกินกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ 

ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ในปี 2563  เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวกว่า 2.9% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของทางการที่ 2 – 2.5 % เนื่องจากการควบคุมโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถรักษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และนักลงทุนได้เป็นอย่างดี  ซึ่งถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เศรษฐกิจขยายตัวสูงที่สุดในโลก ซึ่งเป็นผลจากการควบคุมโรคระบาดของทางการที่ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ผู้บริโภคสามารถกลับมาจับจ่ายและบริโภคสินค้าได้ ขณะที่ภาคธุรกิจก็สามารถกลับมาดำเนินการผลิตตามปกติได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

ขณะที่ปี 2564 การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามโดยรวมคาดว่ามีแนวโน้มเติบโตเกิน 5 %  แม้ว่าจะเผชิญความท้าทายจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในระลอกใหม่อย่างต่อเนื่องที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมหลักของประเทศ โดยการเติบโตส่วนใหญ่ของเวียดนามมาจากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากการฟื้นตัวความต้องการในตลาดโลก สภาพอากาศที่เอื้ออํานวยต่อผลผลิตทางการเกษตร นอกจากนี้ การใช้จ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นก็ช่วยขับเคลื่อน การขยายตัวด้วยเช่นเดียวกัน เพราะที่รัฐบาลเวียดนามเองก็ได้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

นอกจากข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจสะท้อนให้เห็นว่าเวียดนาม ถือเป็นหนึ่งในประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพในการสร้างการเติบโตสูงแล้ว หากมองโครงสร้างประชากรก็ถือเป็นอีกหนึ่งในข้อได้เปรียบเช่นเดียวกัน ที่มีประชากรวัยหนุ่มสาวที่จะสนับสนุนทั้งการเติบโตของตลาดแรงงาน และการบริโภค จากการที่กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง อีกทั้งตอบรับต่อเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามหากมองในด้านการลงทุนจะเห็นได้ว่าเวียดนามถือเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยี และการพัฒนาด้านแรงงาน ซึ่งเวียดนามถือเป็นประเทศที่มี Talent ที่หลายประเทศให้ความสนใจ รวมถึงมีการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) เพิ่มขึ้นเพื่อที่จะเพิ่มกำลังบุคลากรที่มีศักยภาพในอนาคตอย่างต่อเนื่อง 

สำหรับประเทศไทย ภาคสถาบันการเงินจึงได้มีการมองหาโอกาสอย่างต่อเนื่องในการขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์หลายแห่งที่ได้เข้าไปประกอบธุรกิจในเวียดนาม โดยรุกไปที่กลุ่มลูกค้าทั้งรายใหญ่ ที่ถือเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่จะเป็น gateway ในการเชื่อมต่อภาคธุรกิจในประเทศไทยและประเทศอื่นๆสามารถที่จะลงทุนระหว่างประเทศขยายตลาดและสร้างการเติบโตใหม่ ๆ ได้

นอกจากนี้ยังมีการเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย ที่สามารถต่อยอดบริการ Digital Banking และเชื่อมโยงไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ ซึ่งทางธนาคารกลางเวียดนามและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมการชำระเงินผ่าน QR Code ระหว่างประเทศสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อช่วงไตรมาสที่ 1/2564 ที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนด้านการค้า การลงทุน รวมถึงเป็นอีกก้าวสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่สามารถเชื่อมโยงการชำระเงินในภูมิภาคอาเซียนได้

กลยุทธ์เดินเกมรุกของ KBank ในเวียดนาม 

จากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ประเทศเวียดนามได้กลายเป็นประเทศที่น่าจับตาในฐานะศูนย์กลางการลงทุนของบริษัทชั้นนำของโลก ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งได้รุกตลาดเวียดนามมาตั้งแต่ปี 2558 ด้วยการให้บริการลูกค้าผ่านสำนักผู้แทน จนกระทั่งได้ตัดสินใจเปิดเป็นสาขาแรกอย่างเป็นทางการที่นครโฮจิมินห์ เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งยังได้มีการเปิดรับสมัครคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ หรือ  Talent เข้าร่วมงานอีกกว่า 500 ตำแหน่ง รวมทั้งได้มีการเพิ่มขีดความสามารถให้กับทีมงานในปัจจุบัน เพื่อที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่ง และขับเคลื่อนธนาคารไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้

หลังจากที่ได้เปิดให้บริการในปีนี้ ที่นครโฮจิมินห์นั้น ธนาคารจะเน้นปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะภาคการผลิต นิคมอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์  สินค้าอุปโภคบริโภค และการลงทุนระหว่างประเทศ ให้บริการแก่บริษัทของไทย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่ต้องการขยายธุรกิจไปเวียดนามเพื่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ 

ส่วนกลยุทธ์หลักในการขยายตลาดไปยังลูกค้ารายย่อยเวียดนามนั้น จะเน้นการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล แบงกิ้งเพื่อขยายการให้บริการไปถึงลูกค้า ผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝาก สินเชื่อบุคคล และร่วมมือกับเทคสตาร์ทอัพในท้องถิ่น  พร้อมด้วยการร่วมลงทุนของ KVision เข้ามาช่วยพัฒนาบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และยังมีกลุ่ม FinTech ระดับโลกสนใจเข้ามาหารือในการเป็นพันธมิตรร่วมกับธนาคารเพื่อสร้างอีโคซีสเต็มของการขยายธุรกิจในเวียดนามเช่นกัน 

ทั้งนี้ธนาคารจะส่งมอบบริการทางการเงินในรูปแบบดิจิทัล ผ่านสินเชื่อดิจิทัล (KBank Biz Loan) และร่วมเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเพื่อหนุนศักยภาพทางธุรกิจในระดับภูมิภาคร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น เช่น การร่วมมือกับบริษัทฐานข้อมูลลูกค้าขนาดใหญ่ที่มีความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้ง เช่น IPOS VN., Haravan และ KiotViet รวมถึง Sendo แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก เพื่อสร้างโซลูชั่นทางการเงินสำหรับผู้ค้าออนไลน์ ให้สามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อทางธุรกิจได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว 

โดยภายในปี 2565 ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อดิจิทัลไว้ที่ 1,500 ล้านบาท จากลูกค้าที่เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก 25,000 ราย ที่มาใช้บริการขอเงินกู้ หรือร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการต่อยอดธุรกิจ 

อย่างไรก็ตามจากแนวโน้มเศรษฐกิจ และกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในเวียดนามข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่าธนาคารกสิกรไทย ไม่ได้รุกตลาดต่างประเทศขยายสู่ระดับภูมิภาค ในฐานะสถาบันการเงินดั้งเดิมที่เน้นปล่อยสินเชื่อ และบริการทางการเงินแบบเดิม ๆ เพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการใช้ประโยชน์จากการเป็นผู้นำด้าน Digital Banking ขยายบริการด้านดิจิทัล สู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ผ่านการขยาย Digital Ecosystem  เพื่อสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดคล้องตามยุทธศาสตร์หลัก ก้าวสู่ ธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 เชื่อมต่อเครือข่ายการค้าและการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนเข้าด้วยกัน ผ่าน Digital Platform โดยในปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีเครือข่ายการให้บริการในต่างประเทศในกลุ่มประเทศ AEC+3 และประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 16 แห่ง และพันธมิตรกว่า 84 แห่งทั่วโลก มีฐานลูกค้าในภูมิภาคกว่า 1.85 ล้านคน และยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

บทความนี้เป็น Advertorial 


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เส้นทางของ Kakao จากสตาร์ทอัพสู่หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลแถวหน้าในอุตสาหกรรมบันเทิง

สตาร์ทอัพที่เริ่มต้นด้วยคนเพียง 2 คน สู่อาณาจักรไอทียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ บทความนี้ Techsauce จะชวนดูความสำเร็จของ ‘Kakao’ บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 24.7 ล้านล้านวอน หรือราว 6.7 ...

Responsive image

2024 ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยต้องโฟกัสอะไร? รู้จักกลยุทธ์ 2C โอกาสใหม่ของธุรกิจไทย เจาะปัจจัยหลักที่นักการตลาดดิจิทัลต้องรู้

บทความนี้ Techsauce จึงจะพามารู้จักกับ 2 กุญแจชิ้นสำคัญอย่าง Content & Convenience ที่กุมชะตาธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยในยุคดิจิทัล...

Responsive image

AirAsia MOVE ประกาศรีแบรนด์ดิ้งใหม่ สู่ผู้นำแพลตฟอร์มเดินทาง OTA แบบคุ้มครบจบในแอปเดียว พร้อมแพ็กเกจบินทั่วอาเซียนแบบไม่จำกัด

airasia Superapp ประกาศรีแบรนด์ดิ้งใหม่ในชื่อ AirAsia MOVE พร้อมปรับโฉมแอปพลิเคชันใหม่ และเสริมกลยุทธ์ด้านธุรกิจเพื่อผลักดันให้ AirAsia Move เป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์ม OTA (ตัวแทนด้านก...