OpenAI วันที่ไม่มี Sam Altman จะเป็นยังไง ? หลังข่าวช็อควงการเมื่อผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท AI ที่ใหญ่ที่สุดแห่งยุคถูกไล่ออก และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนใด ๆ ว่าเขาจะได้กลับไปที่บริษัทในฐานะผู้นำอีกครั้งไหม แต่แน่นอนว่านี่เป็นการเคลื่อนไหวที่อาจพลิกโฉมวงการ AI ไปตลอดกาล 

ย้อนรอยมหากาพย์การไล่ Sam Altman

• จุดเริ่มต้น วันที่ 17 พ.ย. 66 บอร์ดบริหารนัดประชุมบอร์ดกับ Sam Altman โดยเป้าหมายของการประชุมคือไล่ Altman ออก
• โละแผงอำนาจเดิม ในวันที่ 18 พ.ย. 66  บอร์ดบริหารก็ไล่โละขั้วอำนาจเดิม เช่น Greg Brockman ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานบอร์ด แต่ยังสามารถทำงานต่อไปได้
• พันธมิตร Altman แห่ลาออก หลังการประกาศปลด Sam Altman อย่างเป็นทางการ กลุ่มพันธมิตรของ Altman ก็แห่ลาออกกัน ไม่ว่าจะเป็น Brockman หรือนักวิจัยอาวุโสของบริษัทอีก 3 คน
• นักลงทุนเรียกร้องให้พา Altman กลับมา นักลงทุนต่างออกมากดดันบอร์ดบริหาร รวมถึง Microsoft ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ลำบากใจต่อเหตุการณ์นี้ แต่อย่างไรก็ตามการพา Altman กลับไปก็มีอุปสรรค เพราะบอร์ดบริหารยืนกรานไม่เอา Altman และกำลังมองหา CEO คนใหม่อยู่ด้วย
• Sam Altman หันมาร่วมงาน Microsoft หลังบอร์ดบริหารแต่งตั้ง CEO คนใหม่อย่าง Emmett Shear ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitch ทางด้าน Sam Altman, Greg Brockman และทีมนักวิจัยอาวุโสจับมือกันย้ายไปซบ Microsoft เพื่อเป็นผู้นำทีมวิจัย AI ชุดใหม่ในวันที่ 20 พ.ย. 66
• ลาออกยก OpenAI เมื่อไม่มี Sam Altman พนักงานกว่า 650 คน (จากทั้งหมด 770 คน) ยื่นจดหมายลาออก หากบอร์ดบริหารไม่ยอมลาออกและพา Altman กลับมา
• เตรียมวางแผนกลับ OpenAI เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวแว่วออกมาว่าทั้ง Altman และ Brockman กำลังพิจารณาหาหนทางกลับมา OpenAI เนื่องจากข้อตกลงกับ Microsoft ยังไม่สมบูรณ์ แต่จะกลับมาก็ต่อเมื่อบอร์ดบริหารที่ไล่เขาออก ลาออกทั้งหมด

เมื่อ Open AI ไร้เงา Sam Altman จะเป็นอย่างไร

แม้ยังอยู่ในช่วงคลุมเครือแต่เห็นได้ชัดว่า OpenAI ที่ขาด Sam Altman น่าจะดำเนินการต่อไปได้ยาก เพราะพนักงานบริษัทเกือบทั้งหมดพร้อมที่จะลาออกตามเขาไป และนักลงทุนส่วนใหญ่มีท่าทีไม่พอใจอย่างมากต่อการปลด Altman ครั้งนี้ 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา นักลงทุน OpenAI ก็ได้ยื่นฟ้องบอร์ดบริหารที่ปลด Sam Altman ออกจากตำแหน่งแบบกระทันหัน เพราะการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อาจทำให้นักลงทุนต้องเสียเงินทุนมหาศาลไปในพริบตา

รวมถึง Mira Murati (ที่เคยดำรงตำแหน่ง CEO ชัวคราวแทน Sam Altman) ก็ออกมาโพสต์ข้อมความผ่าน X ว่า “OpenAI is nothing without its people” ซึ่งหมายถึงการที่บริษัทไม่มีทีมของ Altman ก็ไม่ใช่ OpenAI ที่ทุกคนเคยรู้จักอีกต่อไป

นี่เป็นแค่ผลกระทบในระดับองค์กรเท่านั้น ซึ่งหากการที่ไม่มี Altman ใน OpenAI อีกต่อไป อาจเกิดปัญหาใหญ่ในอุตสาหกรรม AI ระดับโลกเลยก็ได้

เพราะชื่อของ Sam Altman ในตอนนี้คือสิ่งที่สามารถชูโรง OpenAI ให้คนภายนอก คนในองค์กร นักลงทุน และคนในอุตสาหกรรม AI เชื่อมั่นในบริษัท OpenAI เขายังเดินทางไปทั่วโลก พบปะกับผู้นำมากมาย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชื่อ Sam Altman ตอนนี้ก็มีพลังระดับเดียวกับ Bill Gates Mark Zuckerberg ของวงการปัญญาประดิษฐ์ 

เหตุการณ์นี้น่าจะสร้างความเสียหายให้กับ OpenAI มหาศาล หากเขาไม่กลับมา

อุตสาหกรรม AI จะเปลี่ยนไปไหม ?

หาก Altman ไม่กลับมามีสิทธิ์สูงมากที่ OpenAI จะไม่ได้ไปต่อ นั่นหมายความว่าเทคโนโลยีระดับสูงมากมายที่พัฒนาโดย OpenAI อาจต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะชะตากรรมของ ChatGPT ที่มีผู้ใช้งานมากมายทั่วโลก

เพราะถ้า Satya Nadella ดึงตัว Sam Altman และทีมนักวิจัยมาทำงานที่ Microsoft ทั้งหมด พวกเขาก็คงจะไม่สามารถนำ ChatGPT มาพัฒนานอกบริษัทแม่อย่าง OpenAI ได้ ซึ่งคำถามสำคัญ คือ ถ้า Altman และทีมยกขบวนมา Microsoft จริง ทางฝั่ง Microsoft จะยังคงสนับสนุน OpenAI ด้วยเทคโนโลยีของตนหรืออยู่หรือไม่ เพราะในตอนนี้มีทั้ง GPT-4 และ ChatGPT ที่ยังพึ่งพาเทคโนโลยีจาก Microsoft อย่างบริการคลาวด์ และ Azure data center อยู่

และถ้าคำตอบคือ ‘ไม่’ ทางฝั่ง OpenAI คงต้องเร่งหาที่พึ่งพาใหม่ เพื่อใช้ขับเคลื่อน ChatGPT ด้วยตัวเองต่อไป ซึ่งตรงนี้อาจกลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ AI ตัวอื่น ๆ เช่น Claude หรือ Google Bard ขึ้นมาแย่งชิงความนิยมไปจาก ChatGPT ได้ 

แม้ว่าล่าสุด Nadella ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าโครงสร้างองค์กรของ OpenAI จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง แม้จะไม่มี Sam Altman ก็ตาม และเน้นย้ำว่าความร่วมมือของ Microsoft กับ OpenAI จะยังคงดำเนินต่อไป 

แต่ในอีกด้าน Microsoft เองก็พร้อมที่จะอ้าแขนรับทีมงานจาก OpenAI และยังบอกไปถึงพนักงานของ OpenAI อีกว่า ที่ Microsoft มีตำแหน่งงานว่างสำหรับพนักงาน OpenAI ทุกคน ซึ่งคาดว่าเป็นแผนกใหม่สำหรับการพัฒนาและวิจัยด้าน AI โดยเฉพาะ

ถ้าหาก OpenAI ไม่มีทีมงานกลุ่มเดิมรวมถึง Sam Altman แล้ว คุณในฐานะผู้บริโภคจะยังคงวางใจกับผลิตภัณฑ์จาก OpenAI อยู่หรือไม่ ? 

อ้างอิง: techcrunch, cnbc, businessinsider, reuters, cnbc