“ AI ถือเป็นจุดเปลี่ยนทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในยุคนี้”

ครั้งแรกในไทย! ไมโครซอฟท์จัดงาน AI Summit โชว์ศักยภาพของ AI ที่จะช่วยยกระดับองค์กรธุรกิจให้พร้อมก้าวสู่ยุคของ AI ด้วยนวัตกรรมโซลูชั่น Copilot for Microsoft และ Azure OpenAI Service 

จากการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าองค์กรใน 41 ประเทศทั่วโลก* พบว่า

• 70% ของผู้ใช้ Copilot รู้สึกว่าทำงานได้อย่าง Productive มากขึ้น และ 68% มองว่าผลงานมีคุณภาพดีขึ้น
• ผู้ใช้ Copilot ใช้ AI ช่วยจัดการงานค้นคว้าข้อมูล งานเขียน และสรุปเนื้อหาได้เร็วขึ้น 29%
• ผู้ใช้ Copilot สามารถติดตามเนื้อหาและประเด็นสำคัญในการประชุมที่ตนเองไม่ได้เข้าร่วมได้เร็วขึ้นถึง 4 เท่าตัว 
• ผู้ใช้ราว 64% เผยว่าพวกเขาใช้เวลาน้อยลงในการจัดการกับอีเมล ขณะที่ 85% สามารถเขียนงานดราฟท์แรกออกมาได้เร็วขึ้น และ 75% ค้นหาเอกสารที่ต้องการได้เร็วขึ้น
• ผู้ใช้ Copilot 77% ต้องการใช้งานต่อไปในอนาคต

_{*ผลสำรวจโดย Microsoft WorkLab (ไม่รวมข้อมูลจากผู้ใช้ในประเทศไทย)}

สู่ยุคแห่ง AI

คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า "AI นับเป็นจุดเปลี่ยนทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในยุคนี้ เราจึงมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนา AI ที่ผสมผสานเข้ากับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของเราอย่างลงตัว มีบทบาทเป็น Copilot พร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ใช้และองค์กรธุรกิจในทุกระดับให้สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น มากขึ้น เร็วขึ้นและเสียงตอบรับจากองค์กรที่นำ Copilot เข้าไปใช้งานจริงก็นับเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีถึงศักยภาพและความพร้อมของ AI ทั้งใน ทั้งในสถานที่ทำงาน โฮมออฟฟิศ สถาบันการศึกษา ห้องปฏิบัติการวิจัย และโรงงานผลิตทั่วโลก"

ใน Session การบรรยาย องค์กรชั้นนำต่างๆ ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์จากการเข้าร่วมโปรแกรม Copilot for Microsoft 365 Early Access Program (EAP) นำ AI มาใช้ในภาคธุรกิจ อาทิ เอไอเอส ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ปตท.สผ. และยังได้เล่าถึงแนวทางความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในการนำ AI มาใช้พลิกโฉมการดำเนินงาน ขณะที่ Buzzebees, InnovestX และ PTT Global Chemical (GC) ก็นำบริการ Azure OpenAl Service มาสร้างสรรค์นวัตกรรมต่อยอดบริการที่มีอยู่ด้วยพลังจาก AI

ทั้งนี้ บริการ Copilot for Microsoft 365 ได้เปิดให้ลูกค้าองค์กรเริ่มใช้งานทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นมา โดยทำงานผสานกับแอปพลิเคชันที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันและการทำงานของผู้คนนับล้านอย่าง Word, Excel, PowerPoint, Outlook และ Teams พร้อมทั้งเพิ่มความสามารถใหม่ๆ มากมาย โดยมีฟีเจอร์เด่น อาทิ

• Outlook มาพร้อมฟีเจอร์ช่วยสรุปอีเมลที่ต่อเนื่องกัน การร่างข้อความตามรูปแบบที่ต้องการ และติดตามการประชุม ผ่าน Teams ได้อย่างสะดวก
• Word ช่วยสรุปเนื้อหาในเอกสาร ร่างเนื้อหาในการเขียนเอกสารใหม่ และจัดรูปแบบย่อหน้า
• Excel สามารถวิเคราะห์ข้อมูล แนะนำสูตรการคำนวณ สร้างกราฟ เป็นต้น PowerPoint สามารถออกแบบสไลด์จากหัวข้อและเนื้อหาที่ต้องการได้ OneNote ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น และสรุปบันทึกย่อได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม Teams ช่วยสรุปเนื้อหาสำคัญจากการประชุม
• Stream ช่วยค้นหาข้อมูลเชิงลึกจากวิดีโอบนแพลตฟอร์มได้ดีขึ้น
• OneDrive ช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องภายในคลังไฟส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

Copilot for Microsoft 365 ยังโดดเด่นด้วยระบบที่พัฒนามาเพื่อองค์กรโดยเฉพาะ ทั้งด้านการรักษาความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการกำกับดูแล รวมถึงด้านจริยธรรม ผ่านการร่วมเรียนรู้และสังเกตการณ์การใช้งานจริงกับลูกค้าองค์กรทั่วโลก รวมถึง องค์กรอย่าง Visa, General Motors, KPMG และ Lumen Technologies

นอกจากนี้ ไมโครซอฟต์ยังได้แนะนำลูกค้าองค์กรในประเทศไทยให้รู้จักกับคุณสมบัติในด้านอื่นๆ อีกมากมายของ Copilot นับตั้งแต่ Microsoft Security Copilot ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการทำงานของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ไปจนถึงการพัฒนา Al Copilot ที่ตอบโจทย์เฉพาะทางขององค์กรด้วย Azure OpenAl Service และ Copilot Studio

เผยความร่วมมือกับรัฐบาล 4 ด้าน

คุณธนวัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์กับรัฐบาลว่า ดีใจที่ภาครัฐจะมีนโยบาย Cloud-first พร้อมแชร์องค์ความรู้สำคัญให้กับกระทรวง DE และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการหารือหลายเรื่องกับรัฐบาลของเศรษฐา ทวีสิน ตามข้อตกลง MOU ดังนี้

• ตั้ง Data Center
• ตั้ง AI Center Excellence ร่วมกับ DE เพื่อนำเทคโนโลยี AI เข้าไปใช้ในโครงการนำร่องของภาครัฐ
• พัฒนาทักษะ reskill upskill newskilll คนไทย 10 ล้านคน
• ให้ข้อมูลและทำงานร่วมกันด้าน Cybersecurity ตั้งแต่แชร์ข้อมูลกลาง เช่น  IP Address ที่ข้องเกี่ยวกับ Cybercrime ไปจนถึงการโจมตีด้วย Malware และ Ransomware ให้พร้อมรับกับความท้าทายใหม่ๆ