• Marketing คือ สิ่งที่เราบอก
• Advertising คือ สิ่งที่เรานำเสนอซ้ำๆ
• Public Relations คือ สิ่งที่คนอื่นพูดให้ฟัง
• Branding คือ คุณค่าในความทรงจำของลูกค้า

ลองจินตนาการดูว่าถ้าแบรนด์ที่เราชอบออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็น “รถยนต์” รถของแต่ละแบรนด์จะมีหน้าตาและลักษณะการใช้งานเป็นอย่างไร เช่น รถยนต์ของ Apple, Starbucks และ Nike จินตนาการของคุณไม่มีผิดไม่มีถูก แต่จงจำไว้ว่าจินตนาการของคุณ คือ Branding เพราะ Branding คือ “คุณค่าในความทรงจำของลูกค้า” คุณสุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล หรือคุณจิ๊บ BrandBaker ได้กล่าวไว้ในงาน The Future of Startup ช่วงการให้ความรู้ด้านการตลาด

วิธีสร้าง Branding

Branding มาจาก “ทุกอย่าง” ที่เราทำ ทุกอย่างจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์หรือบริการ กระบวนการคิด การประสานงาน การให้บริการ การบริหารงาน คุณภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย

Branding คือ สิ่งที่อยู่ในความทรงจำของลูกค้า ดังนั้น เมื่อเรามี Branding หรือต้องการจะมี Branding สิ่งที่เราต้องใส่ใจเพิ่มคือ การตอบสนองความคาดหวังที่อยู่ในใจของลูกค้า

โดยความลึกซึ้งอยู่ที่ว่า “ผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรา ช่วยผู้บริโภคได้อย่างไร” เช่น มาริโอ้ซื้อดอกไม้ไฟ เพื่อเพิ่มพลัง ดังนั้น อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นดอกไม้ไฟก็ได้ แต่เป็นอะไรก็ได้ที่ช่วยเพิ่มพลังให้มาริโอ้

ถามต่อ .. แล้วมาริโอ้ต้องการเพิ่มพลังไป “เพื่ออะไร” คนที่เคยเล่นเกมมาริโอ้น่าจะตอบได้ว่า เพื่อช่วยเจ้าหญิง ดังนั้น อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นการเพิ่มพลังแล้วก็ได้ แต่เป็นอะไรก็ได้ที่สามารถทำให้มารืโอ้ช่วยเจ้าหญิงได้

ดังนั้น จงหาให้เจอว่าความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าในการให้ได้มาซึ่งสิ่งนั้นคืออะไร แล้วเราจะรู้วิธีขายที่ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

สิ่งที่ทำให้เกิด Brand Value

• มีคนรู้จัก
• มีบุคลิก
• เกี่ยวข้องกับอะไรบางอย่าง
• ความพิเศษที่เราเท่านั้นที่มี
• คุณภาพ
• คนที่รักเรา (Loyalty)

วิธีทำการตลาดในยุคดิจิทัล

แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ Impact และ Efficient

Impact คือการทำให้เกิด Social Trends หรือที่เราคุ้นเคยกับคำว่า “ไวรัล” วิธีนี้จะทำให้คนหมู่มากรู้จักเราในระยะเวลาอันสั้น แต่มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะแป๊กง่ายมาก

Efficient วิธีนี้มีความเสี่ยงน้อยกว่า สามารถเริ่มได้จากการหา “Challenge” ว่าเป้าหมายที่เราต้องการทำให้ได้ตอนนี้คืออะไร เช่น อยากให้คนรู้จักเรามากขึ้น อยากขายของได้มากขึ้น

กลุ่มเป้าหมาย

สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือกลุ่มเป้าหมาย เราควรรู้ให้ชัดว่าเขาคืออะไร อายุเท่าไหร่ ทำงานอะไร สนใจเรื่องอะไร และมีไลฟ์สไตล์แบบไหน

โดยมีเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยเราหาผู้บริโภคได้ คือ Facebook กับ Google ลองทำความรู้จักกับพวกเขาให้ดี โดยเฉพาะการค้นหา

• Core Audience หรือกลุ่มเป้าหมายทั่วไปที่เราต้องการ
• Custom Audience / Marketing List กลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการแบบเฉพาะเจาะจง
• Look a Like / Similar Audience การหากลุ่มคนที่เหมือนกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งถ้าเรากรองกลุ่มตัวอย่างมาดี เครื่องมือนี้จะยิ่งมีประสิทธิภาพ

Tips

• คิดถึง Consumer Journey ของลูกค้าแล้วเข้าไปแย่งความสนใจของเขามาอยู่ที่เราให้ได้ รวมถึงหาช่องว่างระหว่างความต้องการของลูกค้ากับคู่แข่งว่าคืออะไร หาให้เจอ แล้วเติมให้เต็ม
• เมื่อเรารู้แล้วว่าเป้าหมายของเราคือใคร ให้หา Insight ของเขามาให้ได้ แล้วหลังจากนั้นค่อยคิดไอเดีย ไปตอบโจทย์ Insight และ Challenge นั้นอีกที
• Online มี Insight ซ่อนอยู่เสมอ สิ่งที่เราต้องถามคือ “WHY ทำไมจึงเกิดสิ่งนี้”
• Challenge x Insight x Idea โดยที่ไอเดียสามารถเป็นได้ทั้ง Entertain Inspire และ Educate

สำหรับผู้ที่สนใจ งานสัมมนา The Future of Startup อนาคต Starup ไทย มีรอบเสวนาพิเศษวันที่ 19 สิงหาคม 2561 ณ ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย สามารถสำรองที่นั่งได้ที่นี่