ส่องเทรนด์ RetailTech พร้อมเจาะ 3 ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกไทยใช้นวัตกรรมอะไรเอาใจผู้บริโภคบ้าง | Techsauce

ส่องเทรนด์ RetailTech พร้อมเจาะ 3 ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกไทยใช้นวัตกรรมอะไรเอาใจผู้บริโภคบ้าง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าธุรกิจค้าปลีก (Retail) ในประเทศไทย มีการแข่งขันกันสูงมาก เรามักจะเห็นธุรกิจรีเทลมากมายจัดโปรโมชัน รวมถึงแคมเปญ และกลยุทธ์ต่างๆ ออกมาต่อสู้กันอย่างดุเดือดเพื่อชิงความเป็น 1 ในตลาดค้าปลีกนี้

แต่หลังจากแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้สิ้นสุด โรคระบาดตัวนี้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของ Digital disruption ให้กับหลายๆองค์กรไม่เว้นแม้แต่ในภาคธุรกิจค้าปลีกเช่นเดียวกัน ที่เริ่มหันมานำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มากมายมาใช้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่เฉพาะตัวสำหรับนักช้อปและผู้บริโภค

บทความนี้ Techsauce ขอนำเทรนด์ของเทคโนโลยีทางธุรกิจค้าปลีกที่เกิดขึ้นมาเล่าพร้อม กรณีศึกษาของธุรกิจค้าปลีกยักษ์ใหญ่ 3 เจ้าในประเทศไทย ได้แก่ CRC, สยามพิวรรธน์ และ The Mall Group ที่ต่างขับเคลื่อนประสบการณ์การค้าปลีกรวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดในรูปแบบ Digital มาแข่งขันกันเพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศไทย ว่ามีนวัตกรรมและเทคโนโลยีอะไรมาเอาใจผู้บริโภค ช่วงชิงความเป็น 1 บ้าง

ส่องเทรนด์ 5 Retail Technology 2023

Retail Technology เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในยุคนี้ว่าธุรกิจค้าปลีกได้เริ่มนำเทคโนโลยีต่างๆ ที่เข้ามา Disrupt ผสานเข้ากับธุรกิจจนเกิดเป็นคำว่า Retail Technology ที่จะเป็นโอกาสในการสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจค้าปลีก โดยเรามาทำความรู้จัก 5 Retail Technology Trends 2023 ที่เป็นเทคโนโลยียอดนิยมให้การนำมาใช้เพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่ง

1. Hybrid and omnichannel customer journeys

การผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ เป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอด เทรนด์ Omnichannel เป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะ Drive เป้าหมายได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรอบด้าน เพราะการซื้อของออนไลน์คือความสะดวกสบายที่ลูกค้าได้รับ และยังเป็น win-win situation ที่ธุรกิจจะได้ศึกษาข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้าได้ ส่วนการซื้อของแบบออฟไลน์จะมอบประสบการณ์ผ่านประสาทสัมผัส ดังนั้นการเป็น Omnichannel จะเป็นการผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน เพื่อสร้าง Customers Journey และมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ Seamless

2. Conscious consumers continue to define retail habits

ผู้บริโภคตระหนักถึงผลกระทบของการบริโภคและการดำเนินธุรกิจของบริษัท เป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่ทำให้ภาคธุรกิจต้องเข้าใจ เพราะลูกค้าจะมองถึงหลักการดำเนินงานด้วยโดยเฉพาะ ESG นั่นคือ Environment สิ่งแวดล้อม Social สังคม และ Governance ธรรมาภิบาล เป็นเทรนด์หลักที่ต้องคำนึงถึงว่าเทคโนโลยีที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถค้นหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ และดำเนินการในลักษณะที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ จะเป็น เทรนด์หลักในธุรกิจค้าปลีกตลอดปี 2023

3. Personalization throughout the customer journey

คือการที่แบรนด์ใช้ Data จากลูกค้ามาปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ สร้าง Touchpoints ส่วนบุคคลตลอด Customert Journey  ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีความเกี่ยวข้องกับตนเองในฐานะปัจเจกบุคคลอย่างมีเอกลักษณ์ การใช้เทคโนโลยีนี้ก็เพื่อ ‘การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ’ เป็นกุญแจสำคัญในการใช้ประโยชน์จากเทรนด์นี้เช่นกัน

4. AR, VR, and the metaverse drive immersive, experiential shopping

ผู้บริโภคในปัจจุบันต้องการประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมหมายถึงบริการที่ดีเยี่ยมในลักษณะที่ไม่ยุ่งยาก มีประสิทธิภาพ สม่ำเสมอ และน่าจดจำ ด้วยเหตุนี้จึงมีความน่าตื่นเต้นอย่างมากเกี่ยวกับแนวคิดของ Metaverse ที่สามารถดื่มด่ำ ประสบการณ์ สภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ผู้ใช้สามารถทำงาน เล่น และใช้ซื้อของ บนแพลตฟอร์มเดียว ในส่วนของ VR เป็นส่วนสำคัญของ Metaverse ซึ่งเป็นวิธีการที่สมจริงที่สุดในปัจจุบันสำหรับผู้บริโภคในการเชื่อมต่อกับโลกเหล่านี้ เทคโนโลยีดังกล่าวและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องของ AR กำลังรุกคืบกับผู้ค้าปลีกผ่านนวัตกรรมต่างๆ เช่น เทรนด์ห้องแต่งตัวเสมือนจริง ซึ่งกำลังจะกลายเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น

5. Cashless, contactless, and autonomous shopping and delivery

ผู้บริโภคต้องการความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในวิธีการชำระค่าสินค้าและบริการ แนวโน้มความสะดวกสบาย เช่น ซื้อออนไลน์รับของที่ร้าน ซื้อออนไลน์รับคืนที่ร้าน และซื้อออนไลน์รับของที่จุดนัดรับ กำลังกลายเป็นมาตรฐานอย่างรวดเร็ว ปัญญาประดิษฐ์และการวิเคราะห์ขั้นสูงทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นไปได้โดยการทำให้กระบวนการจัดการสินค้าคงคลังที่ซับซ้อนเป็นไปโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังจำเป็นสำหรับวิธีการจัดส่งอัตโนมัติแบบใหม่ที่ผู้ค้าปลีกกำลังทดลองใช้งาน นำร่อง และเปิดตัวมากขึ้นในการปรับใช้ในโลกแห่งความเป็นจริงถือเป็นความท้าทายที่ผู้ค้าปลีกจะต้องเผชิญในปี 2023

The Mall Group เดินหน้าเต็มกำลัง ชูกลยุทธ์ Future Retail

‘The Mall Group’ เริ่มต้นที่การพัฒนาช่องทางการตลาดแบบบูรณาการ เดินหน้ากลยุทธ์ Omnichannel Retail อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งทั้ง Offline และ Online แบบ ไร้รอยต่อโดยมี MONLINE และ Gourmet Market Thailand ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น Omnichannel Platform ที่ดีที่สุดโดยเน้น Customer Centric เป็นกลยุทธ์ แม้ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี และ Omnichannel เข้ามามีบทบาทมากขึ้น  จนกลายเป็นกลุยทธ์ที่สำคัญสำหรับธุรกิจรีเทลที่เชื่อมต่อห้างสรรพสินค้า และ ONLINE เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เกิดประสบการณ์แห่งการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ (Seamless Shopping Experience) ในเครือของ The Mall Group ถือว่าตอบโจทย์เทรนด์ค้าปลีกที่เกิดขึ้น

ซึ่ง M ONLINE ถูกออกแบบมาจากความเข้าใจลูกค้าในเชิงลึก (Customer Insight) และความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ (Customer Centric) โดยมี Big Data จาก Customer Platform และเทคโนโลยี AI ที่ทาง The Mall Group ได้ทุ่มทุนในการพัฒนาไปกว่า 100 ล้านบาท ทำให้ได้ข้อมูลจากลูกค้าที่มาเดินในห้างสรรพสินค้าทุกสาขาวันละ 1 ล้านคน และยังมีฐานข้อมูลจากสมาชิกบัตร M Card กว่า 4.5 ล้านคน สมาชิกบัตร SCB M กว่า 8 แสนคน ตลอดจนฐานข้อมูลลูกค้าจากกว่า 13 พันธมิตรบัตรเครดิตอีกจำนวนหลายล้านใบ

นอกจากนี้ยังมี MNIVERSE ที่ทาง The Mall Group ชูการเป็น Future Retail ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล 3D – IMMERSIVE – INTERACTIVE WEB 3.0 ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘BE VIRTUAL FOR REAL EXPERIENCES’ เพื่อเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ครบทุกมิติให้กับลูกค้า โดยมี 3 แกนหลักคือ Connect, Engage และ Communicate ซึ่งจะเป็นทั้ง Virtual Community Virtual Mall  และ Virtual Playground ที่เชื่อมต่อทั้งโลกเสมือนและโลกจริงเข้าไว้ด้วยกัน นับว่าเป็นการดำเนินกลยุทธ์ที่ทาง The Mall Group ในการมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ที่เป็นมากกว่าการซื้อสินค้าแบบ Virtual Experience แต่เป็นเหมือน Community ด้วยเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง 

สยามพิวรรธ์ กับเทคโนโลยีแห่งความเหนือชั้นด้วยกลยุทธ์ Beyond Retail

สยามพิวรรธน์ พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล ‘ONESIAM SuperApp’ ซึ่งเป็น New Growth Engine ของสยามพิวรรธน์ที่จะทำให้ Ecosystem ขยายออกไปมากกว่าการเป็น Physical Shopping Mall แต่ยังรองรับ Digital Assets ประเภทต่างๆ ทำให้เป็น Beyond Retail ตามกลยุทธ์ที่วางไว้ และตอกย้ำความเป็น Trendsetter ด้วยการประกาศความร่วมมือกับ ZEPETO ส่งมอบจักรวาลแห่งประสบการณ์ที่ไม่สิ้นสุดด้วยเทคโนโลยี Metaverse บุกเบิกอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยก้าวหน้า ไปสู่โลกเสมือนจริง ด้วยปรากฎการณ์ไลฟ์สไตล์สุดล้ำรูปแบบใหม่ในงาน Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2022 (BIFW 2022) เมื่อปีที่แล้ว 

สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าทั่วโลกทุกที่ทุกเวลา ซึ่งกิจกรรมที่คัดสรรมาได้เติมเต็มไลฟ์สไตล์ สร้างปฏิสัมพันธ์ เสริมความสนุก ทำให้ลูกค้าได้โลดแล่นไปกับประสบการณ์ที่แตกต่าง ในรูปแบบใหม่และครองความใจลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ พร้อมกันนี้ยังขยายฐานและเข้าถึงลูกค้ากลุ่ม Generation Z โดยเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบ Gamification โดยสร้างรายได้จากระบบนิเวศในรูปแบบใหม่ๆ ที่ยกระดับการแข่งขันกับแพลตฟอร์มต่างๆ ให้สยามพิวรรธน์ก้าวไปได้ไกลกว่าโมเดลธุรกิจหลักเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

CRC มุ่งเป็นเบอร์ 1 ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยยุทธศาสตร์ CRC Retailligence

CRC ถือเป็นผู้เล่นยักษ์ใหญ่อีกเจ้าในตลาดธุรกิจค้าปลีก ก็ได้เปิดตัว CRC Immersive Retail Platform ที่มีชื่อว่า ‘C-Verse’ ซึ่งใช้เทคโนโลยี Generative AI มาสร้างโลกเสมือนที่เชื่อมทุกช่องทางการช้อปปิ้งทั้ง Offline Online Social Media Live Streaming และ Virtual Store ไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ 

ให้ลูกค้าได้ค้นพบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม รวมถึงทำให้คู่ค้าสามารถขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการได้เช่นกัน ตอกย้ำเป้าหมายของเซ็นทรัล รีเทล เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกันทั้ง Ecosystem สู่การเป็นเบอร์ 1 Next-Gen Omni Retailer ภายใต้ยุทธศาสตร์ CRC Retailligence สู่การเป็น Next-Gen Omnichannel ที่สมบูรณ์แบบ

โดย C-Verse ได้ร่วมมือพัฒนากับพันธมิตรอย่าง Huawei Cloud ในการสนับสนุนแอปพลิเคชัน ซึ่งรองรับความหลากหลายของเทคโนโลยี ช่วยให้การเชื่อมต่อแพลตฟอร์มระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนเป็นไปอย่างราบรื่นทำให้ระบบและแอปพลิเคชันมีความคล่องตัว

โดยถือว่าค่อนข้างแตกต่างจากผู้เล่นอื่นๆในตลาดที่นำ AI Chatbot มาเป็นไฮท์ไลท์ คือ ‘Annie’ ในรูปแบบแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ ChatGPT พัฒนาขึ้นสำหรับผู้ใช้งานภายใน C-Verse โดยเฉพาะ เพื่อตอบทุกคำถามและข้อสงสัยที่ลูกค้าต้องการ โดยจะปรากฏขึ้นเมื่อผู้ใช้งานกดไอคอน Annie และสามารถถาม-ตอบคำถามได้แบบเรียลไทม์ ให้ลูกค้าได้เพิ่มความตื่นเต้นและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน 

บทความที่เกี่ยวข้อง

แนวโน้มการแข่งขันอันดุเดือดในอนาคต

จะเห็นได้ชัดว่าเทรนด์ของธุรกิจค้าปลีกในปี 2023 จะมุ่งเน้นไปที่การแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีเป็นหลักเพื่อมอบประสบการณ์การการช้อปปิ้งที่ไร้รอยต่อในการเชื่อมโลกออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากที่สุด หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เข้ามาทำปฏิกิริยา ผลักดันภาคธุรกิจค้าปลีกด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้แม้ในช่วงนั้นรัฐบาลจะสั่ง Lockdown ห้างสรรพสินค้าก็ตาม

เราต้องมาติดตามกันต่อไปว่า ในโลกที่หมุนเร็ว เทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน ธุรกิจค้าปลีกจะหยิบจับเทคโนโลยีใดใดมามอบประสบการณ์ให้ลูกค้าอีกบ้าง ก็ถือว่าเป็นการแข่งขันที่น่าจับตามองในตลาดของประเทศไทยมากเลยทีเดียว


อ้างอิง Forbes

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เช็คจุดน้ำท่วมเรียลไทม์ ผ่านแอปฯ BMA Traffic น้ำท่วม-รถติด-อุบัติเหตุ ดูได้หมด

BMA Traffic เป็นแอปพลิเคชันที่เราสามารถดูระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่ติดตั้งอยู่ทั่วกรุงเทพมหานครแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถสำรวจพื้นที่น้ำท่วมหรือรถติดผ่านแอปฯ ได้ทันที...

Responsive image

เส้นทางของ Kakao จากสตาร์ทอัพสู่หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลแถวหน้าในอุตสาหกรรมบันเทิง

สตาร์ทอัพที่เริ่มต้นด้วยคนเพียง 2 คน สู่อาณาจักรไอทียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ บทความนี้ Techsauce จะชวนดูความสำเร็จของ ‘Kakao’ บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 24.7 ล้านล้านวอน หรือราว 6.7 ...

Responsive image

2024 ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยต้องโฟกัสอะไร? รู้จักกลยุทธ์ 2C โอกาสใหม่ของธุรกิจไทย เจาะปัจจัยหลักที่นักการตลาดดิจิทัลต้องรู้

บทความนี้ Techsauce จึงจะพามารู้จักกับ 2 กุญแจชิ้นสำคัญอย่าง Content & Convenience ที่กุมชะตาธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยในยุคดิจิทัล...