ไปนั่งร้านกาแฟ ร้านอาหาร แล้วชอบสไตล์การตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นในร้าน แต่ไม่รู้จะ เสิร์ชว่าอะไร ลองโหลดแอป NocNoc มาเป็นผู้ช่วยแล้วหรือยัง?
ด้วยแนวคิดที่ต้องการให้ผู้บริโภคหาไอเดีย และเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์-ของแต่งบ้าน-วัสดุก่อสร้าง-เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ในแหล่งเดียว ณัฐวดี วงษ์ทศรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี NocNoc เกริ่นว่า หลังจากปล่อยแพลตฟอร์มรวมสินค้าตกแต่งบ้านในลักษณะมาร์เก็ตเพลสที่เป็นเว็บไซต์ NocNoc.com ซึ่งมีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มคนวัย 40-50 ปี จนได้รับกระแสตอบรับที่ดี 3 ปีต่อมาจึงเปิดตัวแอปพลิเคชัน เพื่อตอบโจทย์ผู้ซื้อซึ่งเป็นผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีช่วงอายุน้อยลง อาศัยอยู่ทั้งในคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว เมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา
กอปรกับการที่ทีมงาน NocNoc ค้นพบว่า อีกหนึ่ง Pain point ของผู้บริโภคคือ คุยกับสถาปนิกไม่รู้เรื่อง ส่งผลให้ผู้ซื้อได้สินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการ NocNoc จึงเข้ามาช่วยให้การค้นหาสินค้าแต่งบ้านด้วยรูปถ่ายนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้น ด้วยฟีเจอร์ล่าสุด Image Search หรือการค้นหาด้วยรูปภาพ โดยทาง NocNoc สอนให้ Machine Learning รู้จักตัวสินค้า เช่น ถ้าคุณชอบโซฟาที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง สามารถถ่ายรูปโซฟามาเสิร์ชในแอปต่อได้ เพื่อหาสไตล์เฟอร์นิเจอร์ที่ใช่หรือใกล้เคียง
เบื้องหลังของแพลตฟอร์ม NocNoc มีเทคโนโลยี การเรียนรู้ของเครื่องจักร (ML : Machine Learning) และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ที่เรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้งานและประมวลผลข้อมูลในทุกการค้นหา การเลือกดูสินค้า การตัดสินใจซื้อ การซื้อซ้ำ รวมถึงมูลค่าในการซื้อสินค้าเรื่องบ้านแต่ละครั้ง
“เราต้องการสร้าง Inspire ให้แรงบันดาลใจแก่เจ้าของบ้าน และ Empower ทำให้คนมาเจอกัน ไม่ว่าจะเป็นคนซื้อหรือคนขาย ได้เจอคนที่เหมาะสมและแมตช์กันเร็วที่สุด เราจึงใช้เวลาทำการบ้านมากๆ ต้องคุยกับช่าง กับสถาปนิก เก็บข้อมูล พิจารณาผู้ค้ามากมาย เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคหรือลูกค้าเข้ามาในแอปแล้วสบายใจ ช่วยทุกคนแต่งบ้านได้โดยไม่เสียพลังงาน เพราะแต่ละคนมีความต้องการไม่เหมือนกัน เช่น กดเสิร์ชปุ๊บ ระบบเดาใจได้ว่า ลูกค้าจะเจออะไร โดยใช้ Machine Learning ในการเรียนรู้ และทำให้ลูกค้าได้ของที่ถูกใจ ถูกต้อง และมีคุณค่า เพราะเราซีเรียสเรื่อง Customer Experience ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกรักเราให้ได้ ด้วยข้อมูลที่คุณเข้าไปดูรายละเอียด แล้วพยายามโปรโมตสิ่งที่คุณสนใจขึ้นมา” ณัฐวดีกล่าว
ขณะที่มีมาร์เก็ตเพลสมากมายอยู่ในตลาด การทำให้ Customer Journey ไปถึงขั้น Check out ได้นั้น ณัฐวดีบอกว่า เราเชื่อมต่อผู้ใช้งานให้ครบทุกมิติในการเลือกซื้อสินค้าและบริการเรื่องบ้านให้เข้าถึงง่ายมากขึ้น ด้วยบริการ NocNoc Connect หลังจากเลือกซื้อสินค้าลงในตะกร้า แอป NocNoc จะแสดงส่วนลด มีค่าจัดส่งหรือฟรีค่าจัดส่งให้ลูกค้าเห็นอย่างชัดเจน เพื่อเพิ่มความสบายใจในการซื้อ ซึ่งสินค้าบางรายการไม่ได้ซื้อแล้วจบ ยังมีสิ่งที่ต้องทำหรือให้บริการต่ออีก อย่างงานปูพื้นผนัง งานประปา งานบริการติดตั้ง เช่น แอร์ ที่ต้องมีการติดตั้ง ก็สามารถเลือกใช้บริการช่างติดตั้งได้ภายใน แอปเดียว หรือ แอร์ที่ซื้อไปแล้วต้องล้างเมื่อไหร่ ฟิลเตอร์เครื่องฟอกอากาศควรเปลี่ยนช่วงไหน แอปจะทำหน้าที่แจ้งเตือนว่า ถึงเวลาล้างแอร์หรือเปลี่ยนไส้กรองแล้ว เพื่อให้ลูกค้าใช้สินค้าที่สั่งซื้อไปได้นานที่สุดและคุ้มค่าที่สุด
ช่วงโควิด-19 ระบาด ผู้คนจำใจซื้อสิ่งที่ไม่เคยสัมผัส ซึ่งถ้าไม่ถูกใจก็คืนสินค้าได้ คนจึงกล้าซื้อ ทำให้เกิดการคุ้นชินกับการช้อปออนไลน์ และมูลค่าการใช้จ่ายโดยเฉลี่ยต่อครั้งของผู้ซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม NocNoc ก็เพิ่มขึ้นจาก 9,000 บาท มาเป็น 20,000 บาท โดยสินค้าที่มีการ Checked out มากที่สุดคือ ทีวี เครื่องเสียง โซฟา และในอนาคต ณัฐวดีบอกว่า จะทำให้แพลตฟอร์มมีความเป็นไลฟ์สไตล์ จับต้องได้มากขึ้น และตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้อย่างครบเครื่องในแอปเดียว
“ตั้งแต่เปิดตัวแอปพลิเคชัน พบว่ามีคน Engage กับเรามากขึ้น บ่อยขึ้น และหลังจากนี้จะมากขึ้นไปอีก เพราะปีนี้ NocNoc มีแผนเชื่อมต่อ Online to Offline กล่าวคือ NocNoc จะมี Onground Event เพิ่มขึ้น เช่น NocNoc Fair ที่มีแพลนจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ และการร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็น Visibility ของสินค้า และสามารถช้อปสินค้าแต่งบ้านผ่าน NocNoc ได้เลยทันที พร้อมได้รับส่วนลดที่คุ้มค่า
ยังไม่พอ ปีนี้เราจะเพิ่มสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยเพิ่มความหลากหลายของ Category ให้ครอบคลุมทุกความต้องการ เช่น เครื่องชงกาแฟ สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงสินค้าแม่และเด็ก”
นอกจากนี้ NocNoc ยังเปิดทางให้ทุกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ecosystm การตกแต่งบ้านและสร้างรายได้จากการใช้สินค้าหรือบริการผ่านแพลตฟอร์ม
“เรามีผู้ซื้อ ผู้ขาย ช่าง คอนเทนต์ครีเอเตอร์ ในอนาคตจะมีอินฟลูเอนเซอร์ หรือเพื่อนที่อยากแนะนำเพื่อนก็สามารถได้ค่าคอมมิชชัน และร่วมสร้าง Value on top ไปได้เรื่อยๆ โดยในมุม Affiliate เรามองว่า มีอินฟลูเอนเซอร์ที่หยิบของมาโฆษณาโดยไม่ได้ใช้สินค้าจริงก็ทางหนึ่ง แต่เราจะทำให้การใช้งานจริงของลูกค้าเป็นโมเดลต้นแบบให้คนอื่นได้ ทำให้เขาได้ค่าคอมฯ ไปด้วย ซึ่งจะผลักดันให้เกิด Community ของการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องบ้าน มีพื้นที่พูดคุยระหว่าง User ด้วยกันเอง และบนแพลตฟอร์มยังมีที่ปรึกษามืออาชีพให้คำแนะนำเรื่องการทำบ้านได้ทั้งหมด เช่น หากคุณเลี้ยงสุนัข จะต้องใช้พื้นกระเบื้องแบบไหน เพื่อไม่ให้น้องหมาที่เรารักมีปัญหาข้อเข่าเสื่อมในอนาคต”
ส่วนแม่เหล็กตัวใหม่ที่จะดึงให้ลูกค้าอยู่กับแพลตฟอร์มนานขึ้น ณัฐวดีบอกว่า เร็วๆ นี้จะเปิดตัว Loyalty Program เพื่อ Personalize ความต้องการของลูกค้าให้โดนใจมากกว่าเดิม ซึ่งนอกจากลูกค้าที่มี Loyalty จะเข้ามาช่วยตอบคำถามลูกค้าคนอื่นๆ ได้แล้ว ระบบหลังบ้านก็จะช่วยแก้ Pain point อื่นๆ ได้อีก
บนแอปของ NocNoc มีตัวอย่างการตกแต่งห้องหรือบ้านให้พิจารณาและสามารถซื้อสินค้าที่เห็นตามการออกแบบของนักออกแบบได้เลย เช่น แบบห้องที่ใช้วอลล์เปเปอร์สีฟ้า มีโต๊ะไม้ สีเข้ากับผ้าม่านมู่ลี่ ทั้งยังบอกได้ด้วยว่า สินค้าที่เลือกนั้นบ่งบอกได้ว่าสไตล์การตกแต่งบ้านของผู้ซื้อเป็นแบบไหน เช่น สไตล์โมเดิร์น วินเทจ ลอฟต์ สแกนดิเนเวีย
นอกจากนี้ NocNoc ยังใช้ Machine Learning และ AI ทำให้คนที่เข้ามาเสิร์ชเจอ ความเป็นไปได้ใหม่ๆ และมีแนวคิด ทำให้ของเก่ากลับมาใหม่ เพื่อตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืน
“ส่วนตัวที่ไปซื้อเก้าอี้ทำงาน พอนั่งทำงานไปได้ 3 เดือน พบว่าขนาดใหญ่ไป ขายมือสองก็ยากอีก ก็กลับมาคิดว่า จะทำอย่างไรให้มันยั่งยืนมากขึ้น คำตอบก็คือ ใช้ฟีเจอร์ที่มี ML, AI ช่วยให้ค้นหาของถูกใจ และชอบมากขึ้น อย่างฟีเจอร์เล็กๆ Experience Feature Based เสนอให้เห็นว่าโต๊ะที่ถูกใจมีหลายขนาด หลายสี ก็เลือกได้ว่าต้องการขนาดโต๊ะที่ใช่ สีที่ชอบหรือสีที่เข้ากับบ้าน เพราะถ้าเราเจอสินค้าที่ชอบ ใช้งานแล้วใช่ ทุกอย่างลงตัวก็ใช้ได้ยาว ก็จะช่วยลดการสร้างขยะ (Waste) ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม”
“และเนื่องจากคนไทยอยู่บ้านกันเป็นครอบครัว แต่ละคนมีสไตล์ไม่เหมือนกัน ปัญหาคลาสสิกคือ คุณพ่อคุณแม่เสียดายเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก เพราะซื้อแพงมากเลย แต่จะทำอย่างไรให้เฟอร์ฯเก่าเข้ากับสไตล์การแต่งบ้านของเราได้ ทาง NocNoc จึงมีไอเดีย เพื่อทำให้การแต่งบ้านเข้ากับทุกคนในครอบครัวได้ โดยเป็นฟีเจอร์ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์เก่า เช่น เอาเก้าอี้ไม้สักมาตกแต่งสไตล์เจแปนนีส ให้ถ่ายรูปเฟอร์นิเจอร์เข้าไปตกแต่งในแอปได้เลย เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่จะออกกลางปีนี้”
ณัฐวดี ให้ข้อมูลเพิ่มว่า กลุ่มลูกค้าหลักของแอป NocNoc ส่วนใหญ่เป็นคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ โดยมีสัดส่วนเป็นคนที่อยู่คอนโดกับคนที่อยู่บ้านเดี่ยวใกล้เคียงกัน ด้านวิธีชำระเงินภายในแอป ลูกค้ากว่า 80% ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต อีก 20% เป็นลูกค้าที่ใช้บัตรเดบิตและลูกค้าที่โอนเงินโดยสแกน QR PromptPay ซึ่งเรารองรับลูกค้าทุกกลุ่ม
ปกติแล้วการแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซ แพลตฟอร์มใดลดราคา ผู้ซื้อก็จะเอนเอียงไปใช้บริการทางนั้นและไม่มี Loyalty มากนัก แต่สำหรับการแข่งขันในตลาดรีเทล ณัฐวดี สรุปในตอนท้ายว่า อยู่ที่ลูกค้าว่าต้องการความวาไรตี้ขนาดไหน และตอกย้ำว่า การพัฒนาแอปที่รองรับความต้องการได้อย่างหลากหลาย และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องก็สำคัญไม่แพ้ความวาไรตี้
“เพราะลูกค้าอาจจะอยากได้โซฟาจากเจ้านึง กรอบรูปอีกเจ้านึง โต๊ะอีกเจ้านึง ดังนั้นเราจึงนำเสนอความสะดวกสบายให้ลูกค้า ให้ได้ของที่ต้องการในแอปเดียว และอยู่ที่ไหนก็ช้อปบน NocNoc ได้ ซึ่งถ้าแอปไม่พัฒนาก็ไม่สามารถดึงคนได้ และถ้า User Experience ไม่ดี ก็อาจจะไปไม่รอด”
บทความนี้เป็น Advertorial
Sign in to read unlimited free articles