เก็บทุกประเด็นน่าสนใจจากงาน Meta Connect 2023 หนนี้ Mark Zuckerberg นำทัพ จัด AI เป็นตัวชูโรง พร้อมเปิดตัวสองแว่นอัจฉริยะที่อัปเกรดใหม่มาอย่างน่าสนใจ 

เปิดตัวทัพ AI 

AI ที่เปิดตัวในงานนี้ว่ากันว่าเปิดตัวออกมาครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น Chatbot, Assistant, AI ที่ใช้สร้างสรรค์รูปภาพ หรือแม้แต่ AI สำหรับธุรกิจก็ยังมี เช่น  

1. AI Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะ ตอบคำถามและพูดคุยได้คล้ายกับ ChatGPT พูดคุยโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และคล้ายกับคนมาก ๆ เนื่องจากได้รับการพัฒนามาจากโมเดลภาษาขนาดใหญ่อย่าง Llama 2  นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนโดย Bing ของ Microsoft ทำให้สามารถตอบคำถามทั่ว ๆ ไป และใช้ Search Engine ในการหาข้อมูลได้
2.  AI Chatbot ที่ยืมบุคลิกของดารามาใช้ Meta ได้พัฒนาให้ AI Chatbot ตัวนี้ให้มีนิสัยใจคอโดยอ้างอิงมาจากคนดังทั่วโลกกว่า 28 บุคลิก ซึ่ง AI เหล่านี้จะมีโปรไฟล์ของตัวเองบน Instagram และ Facebook เพื่อความสมจริงในการพูดคุย โดย Meta ได้สร้างตัวตนใหม่ให้กับ AI ทั้ง 28 ตัว เช่น Tom Brady ดาวดังอเมริกันฟุตบอล, Charli D'Amelio ดาว TikTok , Snoop Dog แรปเปอร์ตัวพ่อ และ Paris Hilton 
3.  AI Studio สร้างสรรค์ AI ได้ตามการใช้งาน มีขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจต่าง ๆ ที่ใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Meta โดยธุรกิจสามารถใช้งาน AI Studio เพื่อสร้าง Chatbot ที่มีคุณลักษณะตรงตาม Brand Values รวมถึงปรับปรุงการบริการและการขายให้ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจมากที่สุด
4. AI stickers สติ๊กเกอร์ตามสั่ง  Meta เปิดตัว ‘Emu’ หรือ AI ที่สามารถสร้างสติ๊กเกอร์ตามคำสั่ง Prompt แทนที่จะต้องเสียเวลาเลือกสติ๊กเกอร์ที่เคยโหลดมา ก็เปลี่ยนมาสร้างใช้เองตามอารมณ์ความรู้สึกตอนนั้นได้เลย 
5. AI ปรับแต่งรูปภาพ ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Instagram ที่จะสามารถใช้ AI ในการปรับแต่งหรือสร้างรูปภาพใหม่ได้ โดย AI ตัวนี้เรียกว่า Restyle ใช้งานคล้ายกับ Emu เพียงแค่คุณพิมพ์คำสั่ง Prompt ลงไปว่าต้องการให้ AI ปรับแต่งอะไรในรูปภาพของคุณ เช่น เปลี่ยนสไตล์รูปถ่ายธรรมดา ให้เป็นสไตล์ภาพวาดสีน้ำ

เผยโฉมแว่น VR รุ่นใหม่ ‘Quest 3’

รูปจาก: about.fb

ภาคต่อของซีรีส์แว่น VR ที่เป็น Best Seller ในตลาดตอนนี้ Meta Quest 3 มาพร้อมกับอัปเดตใหม่ ทั้งตัวฮารด์แวร์และซอฟต์แวร์ พร้อมฟีเจอร์ที่ตั้งใจเอามาชนกับ Apple Vision Pro โดยเฉพาะ 

ทีมงานของ CNBC ให้ความเห็นหลังจากทดลองใช้งานแว่น VR ตัวใหม่ ว่าฮาร์ดแวร์มีการพัฒนาขึ้นมาก ทั้งสายรัดศีรษะแบบใหม่และรูปทรงชุดหูฟังที่เพรียวบางกว่าเดิมอย่างชัดเจน เทียบกับตัว Quest 2 ตัวลำโพงที่ให้เสียงดังกว่ารุ่นเดิม 40% พร้อมกับเลนส์ขนาด 58mm–70mm มีขอบเขตการมองเห็น (Field of View) เพิ่มขึ้นเป็น 110 องศา

และที่เป็นพระเอกของงานเลยคือตัวกล้องและจอแสดงผล ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์ในโลกความเป็นจริงและโลกเสมือนได้ดึขึ้น ด้วยจอแสดงผล 4K+ Infinite Display ใช้เลนส์แพนเค้กเพื่อให้ได้ความละเอียด 2,064 x 2,208 พิกเซลต่อความละเอียดตา 

ในด้านของซอฟต์แวร์ ระบบขับเคลื่อนโดยชิป Qualcomm Snapdragon XR2 Gen 2 RAM ขนาด 8GB ทำให้ประสิทธิภาพเหนือกว่ารุ่นเดิมแบบสองเท่า ความจุมีให้เลือก 2 ขนาด (128 gb และ 512 gb) 

แว่น Meta Quest 3 จะพร้อมวางขายวันที่ 10 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ในราคาเริ่มต้น 499 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 18,334 บาท)

แว่น Ray-ban อัจฉริยะยังได้ไปต่อ อัปเกรดใหญ่ ไลฟ์สดผ่านแว่นได้ด้วย 

รูปจาก: about.fb

Meta เปิดตัวแว่นอัจฉริยะรุ่นใหม่ ที่ร่วมมือกับ Ray-ban แต่มาหนนี้ไม่มีคำว่า Stories ต่อท้ายแล้ว (รุ่นแรก Meta ตั้งชื่อมันว่า Ray-Ban Stories) กลายเป็น Ray-Ban Meta Smart Glasses โดยหมายมั่นปั้นมือว่ามันจะเข้ามาเปลี่ยนภาพจำแว่นตัวเดิม ที่ไม่มีคนใช้ ด้วยการอัปเกรดสองฟีเจอร์หลัก 

ลำโพงและไมโครโฟน : รุ่นนี้มีไมโครโฟนถึง 5 ตัว 1 ตัวอยู่ตรงสะพานจมูกของแว่น เพิ่มประสิทธิภาพการโทร การฟังเพลง และการใช้คำสั่งเสียง Hey Meta ! (รุ่นเก่ามีไมโครโฟนเพียงตัวเดียว) ทำงานร่วมกับผู้ช่วย AI ของ Meta 

กล้อง : แว่น  Ray-Ban Meta Smart Glasses มาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพ 12 ล้านพิกเซลและวิดีโอ 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที (fps) ซึ่งเป็นการอัพเกรดครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนหน้า เก็บรูปภาพได้ประมาณ 500 ภาพและวิดีโอความยาว 30 วินาทีได้ประมาณ 100 ไฟล์ 

และที่เป็นไฮไลท์เลยคือ เราสามารถไลฟ์สดผ่านแว่นตานี้ได้ด้วย โดยทุกอย่างจะซิงค์ผ่านแอป Meta View ที่จะช่วยให้เราแชร์คอนเทนต์ไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ของ Meta อย่าง Facebook หรือ Instagram ได้อย่างรวดเร็ว 

แว่น  Ray-Ban Meta Smart Glasses มีให้เลือกถึง 7 สี มาในราคาเริ่มต้นที่ 299 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 10,986 บาท) 

แว่นอัจฉริยะรุ่นแรกของ Meta นั้น จะบอกว่าคว้าน้ำเหลวก็คงไม่เกินจริง คนไม่ได้ซื้อเยอะขนาดนั้น แถมยังไม่เปิดใช้ด้วย 

The Wall Street Journal รายงานว่ายอดขายของแว่น Ray-Ban Stories ตั้งแต่เดือน กันยายน 2021 ถึงกุมภาพันธ์ 2023 อยู่ที่ 3,000,000 ชิ้น แต่มีเพียง 27,000 ชิ้นที่ถูกเปิดใช้เป็นประจำทุกเดือน โดย Meta อ้างว่ามาจากปัญหาการเชื่อมต่อและอายุแบตเตอรี่ที่ทำให้ลูกค้าไม่ได้ใช้ประจำ โดยรายงานยังพบว่าลูกค้า 13% ขอส่งคืนแว่นกลับมา

 อ้างอิง: theverge, tomsguide, about.fb, techcrunch