Meta ร่างกฎเข้ม คุมการเมืองยุค AI จัดการโฆษณาเฟคนิวส์ ที่ใช้ AI ทำ
Meta ประกาศ ตั้งแต่ปี 2024 ทุกการใช้งาน AI หรือเครื่องมือดิจิทัลใดๆ สำหรับโฆษณาแคมเปญทางการเมือง สังคม และการเลือกตั้ง บนแพลตฟอร์มของบริษัท ผู้ใช้จะต้องเปิดเผยข้อมูล เมื่อใดก็ตามที่
นโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการใช้งาน Generative AI (Gen AI) อย่างแพร่หลาย ซึ่งมาพร้อมผลกระทบเชิงบวกและลบ เช่น การสร้างข้อมูลเท็จ การสร้างภาพปลอมด้วย Deepfake โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีหน้า ก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ พร้อมขยายไปทั่วโลกในอนาคต
Meta เผยว่าต่อไป โฆษณาทางการเมืองใดๆ บน Facebook Instagram ที่ใช้ AI จะมีสัญลักษณ์บ่งชี้ปรากฎขึ้นพร้อมโฆษณา
หากผู้ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลว่าใช้ AI หรือเทคโนโลยีดิจิทัลสร้างสื่อ Meta จะปฏิเสธการลงโฆษณานั้น และหากฝ่าฝืนอาจมีโทษตามมา ยกเว้นการใช้เครื่องมือเพื่อแก้ไข ตัดแต่งรูปภาพ เช่น แต่งสี แสง ครอปรูป และไม่ได้บิดเบือนสาระของสื่อนั้น จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเปิดเผย
การแพร่กระจายข้อมูลปลอมกลายเป็นภัยคุกคามอันดับต้น ๆ ของการใช้ AI ที่ทั่วโลกกำลังจับตา ว่าอาจเป็นภัยต่อสังคม และระบบประชาธิปไตย
อย่างเช่นประเด็นร้อนที่กำลังเกิดในไทย กับการใช้ Gen AI สร้างภาพพระสงฆ์โซโล่กีต้าร์ แว้นรถแข่ง เรื่องเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับโป๊ปฟรานซิสประมุขของชาวคริสต์ นิกายคาทอลิกเช่นเดียวกัน เมื่อมีภาพพระองค์สวมเสื้อขาวยาว ใส่แว่นดำ ราวกับเดินแบบอยู่
แน่นอนว่ากลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมในหลากหลายมิติ บ้างก็ว่าไม่เหมาะสม บ้างก็ชื่นชมในความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ บ้างก็บอกว่าสำนักพุทธฯ ไทย หยุมหยิมกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทั้งที่พระหลอกลวง ประพฤติไม่เหมาะสมในชีวิตจริงก็มากมาย
แต่สิ่งที่เราปฎิเสธไม่ได้คือ พลังของ AI ในการสร้างข้อมูลปลอมนั้นมีจริง และสามารถทำให้คนเชื่อได้จริง
ตัวอย่างจากเหยื่อแก๊งหลอกเงินในไทย เมื่อเดือนมีนาคม นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ได้ส่งคำเตือนไปถึงลูกค้าของธนาคาร ให้ระวังกลโกงใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ใช้เทคโนโลยี Deepfake ปลอมภาพตำรวจมาเชิดเงินลูกค้าธนาคารไปถึง 6 แสนบาท
และ Meta ไม่ใช่เจ้าของแพลตฟอร์มเจ้าเดียวที่ออกกฎป้องกัน AI เพราะเพื่อนบิ๊กเทค ทั้ง Microsoft Google ต่างก็ออกกฎคล้ายกันเพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว
อ้างอิง : Facebook
Sign in to read unlimited free articles