เป็นที่น่าจับตาในวงการธุรกิจเมื่อมีข่าวการออกเดทระหว่าง K-Pop Idol สัญชาติไทยอย่าง Lisa Blackpink ชื่อดังกับ Frederic Arnault ทายาทจาก LVMH แม้จะยังไม่มีการออกมายืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็นกระแสที่ชวนพูดถึงในสื่อสังคมออนไลน์อยู่ไม่น้อย ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่ธุรกิจของ LVMH เป็นธุรกิจที่มีอิทธิพลในกลุ่มสินค้า Luxury Brands รวมทั้งมูลค่าของบริษัทที่มากมายมหาศาล
บทความนี้ Techsauce จึงขอชวนผู้อ่านมารู้จักธุรกิจ LVMH ว่ามีอะไรบ้างและมีอิทธิพลในแวดวงธุรกิจอย่างที่ทำให้เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในยุโรป รวมถึง เจ้าของอย่าง Bernard Arnault ที่รวยกว่า Elon Musk และที่เป็นกระแสในการค้นหาและถูกพูดถึงมากที่สุดคือ Frederic Arnault ทายาทที่กำลังเป็นที่จับตามองในปัจจุบัน
LVMH หรือ LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton เป็นบริษัทมหาชนจากประเทศฝรั่งเศสที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินค้า Luxury ชั้นนำทั่วโลกมากกว่า 75 แบรนด์ ครอบคลุมตั้งแต่สินค้าแฟชั่นและเครื่องหนัง เครื่องสำอางและน้ำหอม เครื่องประดับและนาฬิกา ร้านค้ารีเทล และอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย อีกทั้งมูลค่าของบริษัทตอนนี้สูงกว่า 4 แสนล้านยูโร กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรปโดยปัจจุบันมีเจ้าของคือ Bernad Arnault ที่ร่ำรวยแซงหน้า Elon Musk จากการจัดอันดับไปแล้วเรียบร้อย
มาดูกันว่าธุรกิจในเครือ LVMH มีอะไรกันบ้างที่เราคุ้นเคยและรู้จัก เช่น
หุ้นของบริษัททำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่า 199 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำให้กลายเป็นบริษัทในยุโรปแห่งแรกที่มีมูลค่าตลาดถึง 500,000 ล้านดอลลาร์
มีรายงานว่ามีรายได้ถึง 79.2 พันล้านยูโร ในปี 2022 เพิ่มขึ้นจากปี 2021 ถึง 23% มีจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าห้าเท่าในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา และมีสาขาใน 81 ประเทศและพนักงานมากกว่า 196,000 คนทั่วโลก ซึ่ง LVMH เชื่อว่าในปีนี้จะทำรายได้เพิ่มมากขึ้นหลังการระบาดของ Covid-19 ผู้คนเริ่มเดินทางมาท่องเที่ยวใช้จ่ายอีกครั้ง คาดว่าจะสามารถกระตุ้นราคาหุ้นของกลุ่มสินค้า luxury อื่น ๆ ได้ เช่น Richemont, Kering และ Burberry
Frederic จบการศึกษาจาก École Polytechnique หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส เอกคณิตศาสตร์ประยุกต์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้เขายังเคยฝึกงานที่ Facebook และ McKinsey & Company ก่อนมาเริ่มงานที่ Tag Heuer เขาพูดได้ 4 ภาษา คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี และเยอรมัน
เช่นเดียวกับพี่น้องคนอื่น ๆ ของ Frederic เขาถูกวางตัวให้รับช่วงต่อกิจการในฝรั่งเศส เขาเริ่มงานกับบริษัทครั้งแรกในตำแหน่งชั่วคราว เป็น Head of Connected Technologies เมื่อปี 2017 จากนั้นในปี 2020 Frederic ก็ได้เข้ามาดำรงตำแหน่ง CEO ของ TAG Heuer และได้ทำการเปลี่ยนแปลงสินค้าฝั่งนาฬิกาและพาบริษัทไปสู่จุดสูงสุดใหม่
นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ Connected watch ที่ตอนนี้มียอดขายกว่า 15% ของนาฬิกาทั้งหมดแล้ว Frederic ยังได้เปลี่ยนรูปแบบการค้าปลีก และเพิ่มอีคอมเมิร์ซเป็นสองเท่า
TAG Heuer ได้ลงทุนการขายครั้งใหญ่กับวงการฟุตบอล แต่ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างที่คาดไว้ จากนั้นจึงเปลี่ยนไปเป็นหุ้นส่วนกับ Porsche ในปี 2021 แทน
เมื่อพูดถึงการเข้าซื้อกิจการ Bernard Arnault ไม่ได้มองหาแบรนด์ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ เขามองหาแบรนด์ที่คิดว่าจะจะสามารถขายได้อีกใน 100 ปีนับจากนี้ การวางแผนระยะยาวนี้ทำให้ธุรกิจของบริษัทนั้นประสบความสำเร็จ
แม้ว่าแบรนด์ทั้งหลายจะอยู่ในเครือ LVMH แต่ทางแบรนด์นั้นสามารถดูแลจัดการธุรกิจได้เอง สะท้อนให้เห็นในความสามารถของ LVMH ในการดูแลบริหารธุรกิจในเครือควบคู่ไปกับกระแสและวัฒนธรรมในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังร่วมมือกับคนดัง แฟชั่นไอคอน และผู้มีอิทธิพลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มคนอายุน้อยมากขึ้น
ด้วยวิธีการบริหารและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของผู้บริหารอย่าง Bernard Arnault ถือเป็นจุดสำคัญที่จะนำพาแบรนด์ในเครือเติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในอนาคตจะมีธุรกิจเพิ่มขึ้นอีกมากมายและครอบคลุมกิจการหลายประเภท
อ้างอิง cnbc, scmp, nytimes, businessinsider
Sign in to read unlimited free articles