‘ความงาม’ และ ‘เทคโนโลยี’ อาจดูเหมือนโลก 2 ใบที่แตกต่างกันและไม่น่าจะมาบรรจบกันได้ แต่ในยุคที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ Industry 5.0  ที่เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และข้อมูล เข้ามาอยู่ในทุกพื้นที่ เทคโนโลยีจึงกลายเป็นหนทางใหม่เพื่อปลดล็อกอนาคตของความงาม

โลกของเทคโนโลยีและความงามจะเป็นอย่างไร และใครที่จะเหมาะในเส้นทางนี้ ?  วันนี้ Techsauce จะพามารู้จักกับผู้นำด้านความงามความงามอันดับ 1 ที่ผันตัวมาเป็นบริษัท Beauty Tech  อย่าง L'Oréal Group บริษัทที่ได้สร้างเส้นทางสายใหม่ให้แก่กลุ่ม Tech Talent ในไทยได้มีโอกาสเติบโตกับบริษัทระดับโลก

ตอนนี้เทคโนโลยีและความงามไม่ใช่สิ่งที่ไกลกันอีกต่อไป เราได้เห็นบริษัทอย่าง L'Oréal Group ผู้นำด้านนวัตกรรมความงามกว่า 100 ปี ที่ได้ปรับรูปแบบการดำเนินงานไปสู่การเป็น ธุรกิจดิจิทัลผู้ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคม โดยมี นวัตกรรม  พลังของดาต้า เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ เป็นหัวใจหลักของกลยุทธ์ในการรับมือความท้าทายต่าง ๆ 

โดยยึดถือในแนวคิดที่ว่า..“ยังมีเทคโนโลยีให้ริเริ่มและทดลองอีกมากมาย L'Oréal จึงเป็นบริษัทที่ฉีกกรอบข้อจำกัดสำหรับสายเทคและวิศวกร”

เมื่อ ‘Beauty’ และ ‘Technology’ ขยับมาใกล้กัน

ด้วยเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และดาต้า ที่ L'Oréal Groupจะเป็นพื้นที่ ให้ Tech Talent ได้พบกับความท้าทายในการทำงาน ที่มาพร้อมกับโอกาสในการเติบโตทางสายอาชีพ โดยในแต่ละแกนจะเข้ามาผลักดันธุรกิจในด้านต่าง ๆ ดังนี้

ดาต้า - L'Oréal Group ในประเทศไทยมีการนำ Marketing Mix Modeling มาใช้เป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ในลอรีอัล กรุ๊ป โดยใช้ Machine Learning ในการสร้างโมเดลเพื่อช่วยฝ่ายการตลาดในการทำความเข้าใจผลลัพท์ของกิจกรรมหรือแคมเปญการตลาดที่ทำ ทำให้สามารถวางแผนในการใช้งบได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อบรรลุ ROI สูงที่สุด

เทคโนโลยี - การใช้เทคโนโลยีและวัสดุศาสตร์ในการสร้างบรรจุภัณฑ์แห่งอนาคต เพื่อบรรลุความมุ่งมั่นการยกเลิกการใช้พลาสติกใหม่ (virgin fossil-based plastic) ลดการใช้ทรัพยากร คิดค้นพลาสติกที่ลดผลกระทบและตอบโจทย์เป้าหมายรักษ์โลก ภายในปี 2030 นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้งานร่วมด้วยตามมาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรม 5.0 หรืออุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

วิทยาศาสตร์ - อุปกรณ์ตรวจวินิจฉัยล้ำยุค (Skin Screens, Spot Scans และ UV Testers) และพลังของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เมื่อทั้ง 2 สิ่งรวมเข้ากับกับองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มีอายุยาวนานนับศตวรรษจากรอบโลก กลายเป็นกุญแจสำคัญที่ทำจะช่วยให้ผู้บริโภควิเคราะห์ผิวพรรณและเส้นผมได้อย่างแม่นยำ และได้รับคำแนะนำในการดูแลผิวและเส้นผมที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละคนจริง ๆ

นอกจากนี้ทาง L'Oréal Group ยังได้มีการใช้เทคโนโลยี AI เทคโนโลยีเสมือนจริง และ Metaverse เข้ามาเสริมทัพ 3 แกนหลัก เพื่อเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาศาสตร์แห่งความงามในยุคดิจิทัล เช่น

• ดาต้าและ AI นำมาใช้เพื่อการสื่อสารและฟังเสียงจากผู้บริโภคนับพันล้านจากทั่วโลก ด้วยเครื่องมือสำหรับ Social Listening และดาต้าจาก Converasational Commerce ที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านดาต้าของ L'Oréal ทำให้สามารถสื่อสารและตอบสนองกับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• เทคโนโลยีเสมือนจริง ได้มีการนำมาใช้ร่วมกับบริการให้คำปรึกษา ทดลองผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการซื้อขาย เพื่อสร้างประสบการณ์ทางโลกกายภาพและโลกเสมือนจริงที่ไร้รอยต่อ ด้วยการให้คำปรึกษาทางความงามและทดลองผลิตภัณฑ์ผ่านการสื่อสารทางเทคโนโลยีแบบเสมือนจริงด้วย Modiface
• Metaverse สร้างพลังของนวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่ออนาคตในศูนย์บ่มเพาะสำหรับ Beauty Tech, Startup ทั้ง 3 แห่ง รวมไปถึง Accelerator ใน Metaverse

วัฒนธรรมองค์กรของคนรุ่นใหม่ ‘สนับสนุนทุกข้อจำกัดให้เป็นไปได้’

มากกว่านวัตกรรม คือความเป็นไปได้ไม่รู้จบที่  L'Oréal Group ผลักดันเพื่อเป็นองค์กรที่พร้อมสนับสนุน พัฒนาศักยภาพทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และดาต้าแก่ Tech Talent รุ่นใหม่ ด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่เชื่อมันในการก้าวข้ามขีดจำกัดและความท้าทาย

L'Oréal Group จึงเป็นองค์กรที่โอบรับทุกข้อจำกัด และพร้อมผลักดันให้ก้าวข้ามขอบเขตเหล่านั้นด้วยการสร้างวัฒนธรรมแบบผู้ประกอบการ (Entrepreneurial culture) ที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ L'Oréal Group ไม่เคยหยุดค้นหานวัตกรรม ความเป็นเลิศ และโซลูชัน เพราะนวัตกรรมความงามมีให้ค้นพบไม่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม การพัฒนาผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์การวินิจฉัยที่ตรงจุดเฉพาะบุคคล หรือการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและความยั่งยืน 

 L'Oréal Group ในฐานะองค์กรแกนนำหลักของอุตสาหกรรมความงาม เชื่อมั่นว่าการมีความรับผิดชอบ รวดเร็ว สร้างสรรค์ความแปลกใหม่ ตอบสนองต่อทุกคนโดยไม่แบ่งแยก และโปร่งใส คือ แนวทางที่สำคัญของอุตสาหกรรมความงาม

แม้ว่าปัจจุบันจะมีผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมส่งถึงมือผู้บริโภคเป็นล้าน ๆ ชิ้นในทุกปี แต่ที่  L'Oréal Group พร้อมสร้างความแตกต่างที่ดีตั้งแต่เริ่มต้นแนวคิดจนกระทั่งกลายเป็นผลิตภัณฑ์ จึงเปิดโอกาสให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างผลกระทบในวงจรชีวิตของนวัตกรรม เพื่อให้ทุก ๆ ผลงานถูกออกแบบบนพื้นฐานของความยั่งยืน

โอกาสเรียนรู้และเติบโตในสาย Beauty Tech

องค์กรที่พร้อมสนับสนุน ให้โอกาส และพัฒนาความสามารถของบุคลากรอย่าง  L'Oréal Group เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ในสายงานเทคโนโลยีและวิศวกรรม ได้เข้ามาเติบโตในระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาความเชี่ยวชาญ และเพิ่มพูนทักษะแบบก้าวกระโดดให้เหนือกว่าขอบเขตความสามารถที่เคยมี

และโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้ที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรม เช่น จากโครงการ Accelerator ทั้งสามโครงการทั่วโลก และโครงการ MYT: ‘Make Your Technology’ Tech Incubator ที่เปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้กับผู้นำที่มีความสามารถและเยี่ยมยอดที่สุดในอุตสาหกรรม 

ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะใหม่ ๆ และสร้างแพสชันในการทำงานของทุกคน ด้วยความเป็นไปได้ไม่รู้จบในสายงานที่หลากหลาย เช่น การผลิต ซัพพลายเชน การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การจัดซื้อจัดจ้าง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ข้อมูล (data science) ที่จะช่วยผลักดันให้พนักงานสามารถพัฒนาไปสู่ทิศทางธุรกิจได้มากมาย จากการพัฒนาทักษะตัวเองในทุก ๆ มิติ 

L'Oréal Group มอบอิสรภาพให้ทุกคนได้ออกจาก comfort zone และเติบโตเต็มศักยภาพในระดับนานาชาติ

บทความนี้เป็น Advertorial