Lilium บริษัทstartup แท็กซี่บินได้ของเยอรมัน ประกาศว่าได้รับเงินลงทุนเพิ่ม 90 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.9 พันล้านบาท จากการระดมทุนในระดับซีรี่ย์ B โดยมีบริษัทจีน Tencent (TCEHY) เป็นผู้ร่วมทุนรายใหญ่ ตั้งเป้าพัฒนาแท็กซี่บินได้ 5 ที่นั่ง ที่สามารถขึ้นและลงได้ทางแนวตั้ง
แรกเริ่มบริษัท Lilium ถูกก่อตั้งโดย 4 นักศึกษาจากTechnical University of Munich ในปี2015 และประสบความสำเร็จในการพัฒนาและทดสอบเครื่องบินเจ็ตพลังงานไฟฟ้าสำหรับ2ที่นั่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักลงทุนหลายราย โดยLiliumระบุว่าการระดมทุนในครั้งใหม่นี้ บริษัทTencentของจีนเป็นผู้ลงทุนหลัก ร่วมถึงบริษัท LGT และบริษัทกลุ่มธนาคารเอกชนและการจัดการสินทรัพย์ระหว่างประเทศ Atomico และบริษัทที่ก่อตั้งโดย Niklas Zennström co-founder ของSkype และบริษัท Obvious Ventures ที่ก่อตั้งโดย Ev Williams co-founder ของTwitter
นาย Daniel Wiegand CEO บริษัทLilium กล่าวถึงเงินทุนก้อนใหม่ว่าจะนำไปขยายการจ้างงานและใช้ในโครงการต่อไปของบริษัท เพื่อพัฒนาแท็กซี่อากาศที่สามารถเดินทางด้วยความเร็ว 300 กม. / ชม. (186 ไมล์ต่อชั่วโมง) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 36 เครื่อง ไปได้ไกลถึง 300กม. และสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 5 คน โดยที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เคล็ดลับของLilium คือการผสมโหมดการบินแบบแนวตั้งและแนวนอนไว้ด้วยกัน โดยเวลาขึ้นบิน engine flaps จะเอียงเป็นแนวตั้งเพื่อให้เครื่องบินเจ็ตสามารถยกตัวขึ้นจากพื้น และเมื่อลอยอยู่ในอากาศแล้ว flaps จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นแนวนอนเพื่อให้เครื่องบินเจ็ตบินไปข้างหน้าได้เหมือนกับเครื่องบินปกติ
อย่างไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญด้านการบินบางท่านที่ยังมีข้อสงสัยว่าLilium จะสามารถทำให้เครื่องบินเจ็ตพลังงานไฟฟ้ามีความเร็วได้ถึง 300กม./ชม. และไปไกลได้ถึง 300 กม. ตามเป้าได้หรือไม่
Daniel ตอบข้อสงสัยนี้ว่า “สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือการใช้แบตเตอรี่ ถ้าเทียบกับน้ำมันเบนซินแล้ว แบตเตอรี่ให้พลังงานต่อกิโลกรัมน้อยกว่าน้ำมันเบนซิลถึง100เท่า ซึ่งนั้นหมายความว่าเครื่องบินเจ็ตพลังงานไฟฟ้าจะต้องมีประสิทธิภาพสูงในเรื่องของการจัดการพลังงานและการเคลื่อนไปในอากาศ และเราเองก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแนวคิดในการประดิษฐ์เครื่องบินแบบใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน "
Lilium เชื่อว่าการพัฒนาเครื่องบินเจ็ตไฟฟ้าไม่เพียงแค่จะช่วยในเรื่องของปัญหาการจราจรเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่ทุกคนจะสามารถเดินทางไปที่ต่างๆ ในขีวิตประจำวันได้เร็วขึ้นถึง5เท่า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อสังคมและการพัฒนาเศรษฐกิจ
ที่มาของภาพและข่าว Techcrunch
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด