เมื่อจีนเปิดเมืองเร็วกว่าที่คาด ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยแค่ไหน ? | Techsauce

เมื่อจีนเปิดเมืองเร็วกว่าที่คาด ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยแค่ไหน ?

KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ประเมินว่าการเปิดประเทศที่เร็วกว่าคาดของจีนจะส่งผลบวกค่อนข้างมากต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2023 จากภาคการท่องเที่ยวที่จะกลับมาฟื้นตัว แม้ว่าในระยะสั้นจีนจะยังเจอความท้าทายจากการระบาดของเชื้อโควิดที่เกิดขึ้นอย่างหนักและรวดเร็ว ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง 

แต่หากการระบาดเกิดขึ้นและจบเร็วตามคาด อาจนำไปสู่การฟื้นตัวที่ดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี  ซึ่งเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมายังไม่ฟื้นกลับสู่ระดับปกติจากนักท่องเที่ยวที่กลับเข้ามาเพียงประมาณ 11 ล้านคนในปี 2022 เทียบกับระดับ 40 ล้านคนในปี 2019 ส่วนสำคัญเกิดจากนักท่องเที่ยวจีนที่มีสัดส่วนประมาณ 25% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในช่วงก่อนโควิดยังไม่กลับมา  

ไทยฟื้นเร็วขึ้นจากการเปิดเมือง แต่ภาคการส่งออกเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ

การเปิดประเทศของจีนที่เร็วกว่าคาด จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยโดยตรงผ่านการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่เคยเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยในช่วงก่อนโควิด ทำให้แม้สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศหลักของโลกไม่ว่าจะเป็น สหรัฐ ฯ ยุโรป ญี่ปุ่น เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว และกระทบกับการส่งออกไทย แต่เศรษฐกิจไทยในภาพรวมจะยังสามารถขยายตัวได้ค่อนข้างดี  

KKP Research ปรับประมาณการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจในปี 2023 จากการเติบโตที่ 2.8% เป็นเติบโต 3.6% โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะสามารถเข้ามาได้ 25.1 ล้านคนจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 19.2 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลบวกเพิ่มเติมต่อการบริโภคในประเทศ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะยังเติบโตอย่างแตกต่างกันมากในแต่ละภาคเศรษฐกิจโดยภาคการท่องเที่ยวและภาคริการขยายตัวได้ดี ในขณะที่ภาคการผลิตและการส่งออกอาจหดตัวจากอุปสงค์ของโลกที่อ่อนแอลง ในภาพรวมการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจทำให้ KKP Research ยังคงประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับเกินกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยและทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังต้องปรับขึ้นอีก 100bps ในปีนี้  

นักท่องเที่ยวจีนกลับมาไทยเร็วแค่ไหน ? 

จากประสบการณ์ในประเทศฮ่องกงและญี่ปุ่นในช่วงต้นปี 2022 การระบาดของโควิดในรอบล่าสุดใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ในขณะที่สถานการณ์ในจีนอาจใช้เวลานานกว่านั้นเล็กน้อย และอาจมีการระบาดมากกว่าหนึ่งระลอกจากจำนวนคนฉีดวัคซีนที่ยังอยู่ในระดับต่ำ KKP Research ประเมินว่าการเปิดเมืองของจีนจะเริ่มเห็นผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2 และเริ่มเห็นผลเต็มที่ในช่วงครึ่งหลังของปี 

โดยเศรษฐกิจไทยจะเป็นกลุ่มประเทศที่ได้รับประโยชน์เป็นหลักจากโครงสร้างการท่องเที่ยวที่พึ่งพาจีนสูง และเป็นประเทศที่จีนเข้ามาเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย โดยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวหลังการเปิดประเทศของจีน จากจำนวนเที่ยวบินจากจีนแผ่นดินใหญ่มายังไทยในเดือนมกราคมมีประมาณ 50 เที่ยวบินต่อวัน หรือ 1,500 เที่ยวบินต่อเดือน คิดเป็นจำนวนคนเดินทางประมาณ 230,000 คนต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากประมาณ 50,000 คนต่อเดือนในช่วงเดือนธันวาคมปี 2022  

ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์  

เมื่อย้อนดูตัวเลขการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนในปี 2019 จะพบว่าธุรกิจที่มีแนวโน้มได้ประโยชน์มากที่สุด คือ กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้า อาหารและเครื่องดื่ม การเดินทาง สันทนาการ เมื่อพิจารณาในภาพรวมจะพบว่าการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจะยังคงค่อนค้างกระจุกตัวในบางธุรกิจ และบางพื้นที่ท่องเที่ยวเท่านั้น ซึ่งจังหวัดใหญ่เพียง 6 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ชลบุรี สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา เป็นที่มาของการท่องเที่ยวไปกว่า 90% ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด ทำให้ตัวเลข GDP ที่ปรับดีขึ้นในปี 2023 จะเป็นตัวเลขที่อาจไม่ได้สะท้อนภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้ดีนัก  

การส่งออกไทยในระยะสั้นยังน่ากังวล

แม้การเปิดประเทศของจีนจะส่งผลบวกบ้างต่อภาคการส่งออกไทย แต่อาจยังไม่เพียงพอชดเชยการชะลอตัวของภาคการผลิตในประเทศเศรษฐกิจหลักอย่างน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี เนื่องจากไทยมีการส่งออกไปยังประเทศกลุ่มนี้รวมกันมากกว่าจีน KKP Research ยังคงประเมินว่าปริมาณการส่งออกของไทยจะยังเติบโตติดลบ 1.8% ในปี 2023 และการส่งออกในรูปสกุลเงิน US dollar มีโอกาสหดตัวรุนแรงในช่วงครึ่งแรกของปี จากฐานที่สูงในปีก่อนหน้า  ก่อนที่อาจจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 

ความไม่แน่นอน 3 ประการในปี 2023

แม้ว่าในภาพรวมการเปิดประเทศที่เร็วขึ้นของจีนจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วขึ้น แต่ในอีกทางหนึ่งก็เพิ่มความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจไทย คือ  

1)           ค่าเงินบาทที่มีความผันผวนสูงจะกระทบผู้ส่งออกและนำเข้า ในปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงไปมาก จากการปรับตัวแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐ ฯ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างไทยและสหรัฐ ฯ และ ดุลบัญชีเดินสะพัดที่ขาดดุลมากที่สุดในรอบหลายปี ในปี 2023 แม้ว่าเงินบาทจะเริ่มแข็งค่าขึ้น แต่สถานการณ์ค่าเงินบาทยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะจากดุลการค้าที่ยังมีความเสี่ยงขาดดุลในปีหน้า โดยตัวเลขดุลการค้าในไตรมาส 3 ปี 2022 พลิกเป็นขาดดุลเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี ซึ่งเกิดจากมูลค่าการนำเข้าที่ขยายตัวขึ้นเร็วกว่าการส่งออกตามราคาสินค้านำเข้าจากที่ปรับสูงขึ้น 

2)           หากนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเร็วอาจทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อในภาคบริการ แม้ว่าการท่องเที่ยวจะส่งผลบวกต่อรายได้ของคนในประเทศ แต่ก็มีผลข้างเคียงต่อราคาสินค้าในประเทศซึ่งสามารถเกิดได้จากสองส่วน คือ 1) ราคาสินค้าในภาคบริการปรับตัวสูงขึ้นตามกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น 2) ปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคบริการ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในหลายประเทศเศรษฐกิจหลัก ภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดในช่วงที่ผ่านมาทำให้มีแรงงานจำนวนมากย้ายออกจากภาคบริการและผู้ประกอบการไม่สามารถดึงคนกลับมาทำงานได้ 

3)           อัตราเงินเฟ้อโลกยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้มากกว่าคาด และทำให้อัตราดอกเบี้ยยังเป็นทิศทางขาขึ้น ในปี 2023 หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าปัญหาเงินเฟ้อจะเริมคลี่คลายลงและทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ ฯ (FED) ไม่จำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเหมือนปีที่ผ่านมารวมทั้งมีโอกาสปรับดอกเบี้ยลงในช่วงปลายปี แต่สถานการณ์ปัจจุบันยังมีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง จากทั้งภาวะทางการเงินที่ยังไม่ตึงตัวมาก ตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่ง จีนที่กลับมาเปิดประเทศ และการคาดการณ์เงินเฟ้อของคนที่ปรับสูงขึ้น รวมทั้งการท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นเร็วจะทำให้เงินเฟ้อในภาคบริการปรับตัวสูงขึ้นได้ สร้างความท้าทายต่อการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยในภาวะที่หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง

อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่

https://media.kkpfg.com/document/2023/Jan/China-country-reopen-impact-for-thai-economy_Final.pdf

ดาวน์โหลดไฟล์รายงานฉบับเต็มและภาพประกอบทั้งหมดได้ที่ 

https://drive.google.com/drive/folders/1SeTmDYvhb77DywmhROk8Q4apif0EAnrU?usp=sharing

Sign in to read unlimited free articles

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Jensen Huang ตอบประเด็นอนาคต AI ยังไงต่อ ? ในงาน GTC 2024

บทความนี้ Techsauce ชวนมาฟังความเห็นของ CEO บริษัทชิปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เกี่ยวกับอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ในงาน GTC 2024...

Responsive image

SpaceVIP จัดทริปกินมื้อหรูระดับมิชลินบนอวกาศ สนนราคาต่อหัว 17.8 ล้านบาท

โอกาสสำหรับการทานอาหารสุดหรูบนอวกาศมาถึงแล้ว SpaceVIP เตรียมเปิดประสบการณ์การทานอาหารจากเชฟระดับ Michelin Star ที่ความสูงกว่า 100,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเลในการผจญภัยบนขอบอวกาศ โอกา...

Responsive image

Rare Beauty จะเปลี่ยนเจ้าของ? แหล่งข่าวชี้ Selena Gomez เตรียมขายแบรนด์

Rare Beauty จะเปลี่ยนเจ้าของ? ข่าวจาก Bloomberg ออกมาว่าตอนนี้ Selena Gomez ได้เริ่มดำเนินการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุนเพื่อประเมินมูลค่าแบรนด์แล้ว...