ธนาคารกสิกรไทย เผยแอป K PLUS ที่ได้รับความนิยมมีคนใช้สูงถึง 7.5 ล้านราย เป็น Lifestyle Platform ตอบโจทย์ทุกด้านของชีวิต เปิดตัว 4 ฟังก์ชันใหม่หวังมัดใจลูกค้า ตั้งเป้าได้ผู้ใช้ K PLUS เพิ่มเป็น 10.8 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้

(ตรงกลาง) คุณพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย

คุณพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เป้าหมายของ K PLUS คือ การสร้างประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้าอย่างไร้รอยต่อ ทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าที่เป็นเจ้าของร้านค้ารายย่อยต่าง ๆ ธนาคารจึงได้พัฒนาดิจิทัล เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการกับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการนำข้อมูลของลูกค้า (Big Data) มาวิเคราะห์เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจและปรับใช้กับกระบวนการหลังบ้าน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยง การให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลและธุรกิจ ทำให้การให้บริการผ่านแอปฯ K PLUS เข้าถึงความต้องการลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้ดียิ่งขึ้น

โดยได้พัฒนา K PLUS ให้เป็น “ไลฟ์สไตล์ แพลตฟอร์ม” (Lifestyle Platform) ที่ใคร ๆ ก็ใช้ ตอบโจทย์ทุกด้านของชีวิต รวมทั้งตอบสนองความต้องการของลูกค้ารายย่อยและเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็ก โดยได้เชื่อมโยงบริการของแอปฯ K PLUS SHOP เพื่อต่อยอดการเป็น “ไลฟ์สไตล์ แพลตฟอร์ม” ของ K PLUS ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งไตรมาสแรกของปีนี้ มีบริการใหม่รวม 4 ฟังก์ชัน ได้แก่

1. ฟังก์ชัน Quick Pay ลูกค้าสามารถจ่ายให้เงินกับร้านค้าได้รวดเร็วมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องล็อกอินเข้าระบบ แค่สแกนคิวอาร์โค้ดของร้านค้าที่ใช้ K PLUS SHOP สามารถจ่ายเงินได้ทันที
2. ช้อปสินค้าบนแอป K PLUS เปิดให้บริการในเดือนมีนาคมนี้ เป็นตลาดนัดออนไลน์ที่ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าหลากหลายประเภทได้บน K PLUS เป็นครั้งแรก เช่น ร้านค้าสินค้าเกษตรกรคุณภาพจากโครงการพรวนฝันและกลุ่มเกษตรกรจากจังหวัดต่าง ๆ สินค้าจากผู้ประกอบการรายย่อยและกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงสินค้าจากพันธมิตรทางธุรกิจของธนาคาร ทั้งบริการข่าวสารในรูปแบบดิจิทัล (Digital Content) และสินค้าอุปโภคบริโภค
3. บริการสินเชื่อบุคคลบน K PLUS ธนาคารใช้ระบบคำนวณอัตราดอกเบี้ย โดยพิจารณาจากความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละราย ทำให้ธนาคารนำเสนอสินเชื่อส่วนบุคคล (K-Personal Loan) ที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าผ่านแอปฯ K PLUS ในช่วงนี้ได้เริ่มทดลองกับกลุ่มลูกค้าที่ได้ตรวจสอบล่วงหน้า (Pre-Qualify) แล้วว่ามีเครดิตที่ดีในการทำธุรกรรมการเงิน โดยลูกค้าสามารถกดเข้าไปเลือกวงเงินที่ต้องการกู้ ระบบจะแสดงวงเงินกู้สูงสุดที่ลูกค้าสามารถกู้ได้ กดรับสินเชื่อได้ วงเงินกู้จะเข้าในบัญชีทันที
4. ในฝั่งของร้านค้า แอป K PLUS SHOP ได้พัฒนาฟังก์ชัน “ขายและเรียกเก็บเงินผ่านโซเชียลมีเดีย” (Social Payment) ให้ผู้ขายรับเงินจากลูกค้าผ่านทางโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook Messenger, Instagram, LINE, WhatsApp ได้ทันที เพียงแค่ส่งบิลที่อยู่ในรูปแบบ QR Code ที่เป็นของร้านค้า ให้ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่าน K PLUS หรือ โมบายแบงกิ้งของทุกธนาคาร เพื่อซื้อสินค้าและบริการได้ทันที

สถิติที่น่าสนใจในปี 2560

• สถิติแอป K PLUS ปี 2560
  • มียอดทำธุรกรรม 3 พันล้านรายการต่อปี
  • มีปริมาณธุรกรรม 6.3 ล้านล้านบาท
  • มีฐานลูกค้ามากถึง 7.5 ล้านราย เป็นผู้เข้าใช้งานเป็นประจำ 80%
  • ปัจจุบันมีลูกค้าใช้จ่ายด้วย QR Code ผ่าน K PLUS จำนวน 1.3 ล้านรายการ มีมูลค่าการทำธุรกรรม 811 ล้านบาท

• สถิติแอป K PLUS SHOP ปี 2560
  • มีจำนวน 800,000 ร้านค้า
  • มีจำนวนธุรกรรม 1.4 ล้านรายการ
  • มีมูลค่าการทำธุรกรรมรวม 1,100 ล้านบาท

เป้าหมายปี 2561

• ตั้งเป้าหมายมีผู้ใช้งานแอป K PLUS เพิ่มเป็น 10.8 ล้านราย ภายในสิ้นปี 2561
• ตั้งเป้าหมายส่งมอบสินค้าผ่าน K PLUS ให้กับลูกค้ากว่า 30 ล้านรายการภายในปีนี้
• ตั้งเป้ายอดการซื้อขายผ่านระบบอีมาร์เก็ตเพลสกว่า 600 ล้านบาทในระยะเวลา 1 ปีหลังจากเปิดให้บริการ
• ส่วน K PLUS SHOP ตั้งเป้าเพิ่มร้านค้าเป็น 1 ล้านร้านค้าภายในสิ้นปี 2561 มุ่งเน้นให้ลูกค้าใช้คุ้นเคยกับการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด จึงได้ขยายฐานร้านค้าไปยังกลุ่มธุรกิจรายย่อยที่ขายสินค้าหรือบริการที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า การเดินทาง