ในงาน HUAWEI CONNECT 2018 ภายใต้หัวข้อ “Power of the Platform” กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ยได้เผยกลยุทธ์แพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ของบริษัท ที่จะช่วยเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของรัฐบาลและองค์กรธุรกิจต่างๆ และนำไปสู่นวัตกรรมและการเติบโตในระดับที่สูงขึ้น
พร้อมประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์ม AI + Digital Platform ที่สามารถปรับให้เข้ากับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย รวมไปถึงประกาศความร่วมมือกับเขตเมืองใหม่เทียนจิน ปินไห่ นิว แอเรีย (Tianjin Binhai New Area) เพื่อสร้างเมืองอัจฉริยะ ด้วยการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มใหม่ของบริษัทอย่าง AI + Digital Platform
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้เปิดตัวโซลูชัน Smart Campus ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการโดยบริษัทว่านเคอ (Vanke) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศจีน โดยโซลูชั่นใหม่จากหัวเว่ยจะช่วยพลิกโฉมการดำเนินธุรกิจขององค์กรเพื่อสร้างการเติบโตและพัฒนาความสามารถในการแข่งขันให้กับองค์กร
เหยียน ลี่ต้า ประธานบริหาร กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ ของหัวเว่ย กล่าวว่า "Digital Transformation เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ซึ่งต้องอาศัยการจัดการอย่างเป็นระบบ และหลอมรวมเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่าง เพื่อบูรณาการโลกทางกายภาพและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกัน หัวเว่ยมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยขับเคลื่อนแพลตฟอร์มธุรกิจของลูกค้าด้วยแพลตฟอร์มไอซีที เพื่อให้บริษัทคู่ค้าสามารถผนวกรวมแอพพลิเคชั่นเฉพาะอุตสาหกรรมเข้าไปในแพลตฟอร์มได้ ด้วยวิธีนี้ แพลตฟอร์มของหัวเว่ยจะทำหน้าที่เป็นเสมือน “ผืนดินอันอุดมสมบูรณ์” ที่เอื้อต่อการเติบโตของระบบนิเวศอุตสาหกรรม และส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของอุตสาหกรรมต่างๆ กับคู่ค้าในระบบนิเวศของเรา"
กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย ยังได้แนะนำแนวทาง “Digital Platform + X + Ecosystem” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลให้กับลูกค้า ด้วยการใช้ Digital Platform เป็นพื้นฐาน บวกกับคุณสมบัติใหม่ ๆ (X) เช่น AI, IoT, บิ๊กดาต้า, ความปลอดภัย, ICP, วิดีโอ และแพลตฟอร์มขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่ผสมผสานภาคส่วนเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกัน
“Digital Platform ของหัวเว่ยมีข้อได้เปรียบหลัก 3 ประการคือ ครบถ้วน (Full-stack) เปิดกว้าง และรองรับธุรกิจองค์กรต่างๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม เราได้พัฒนาโซลูชั่นแบบ Full-stack ขึ้นมา ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ เลเยอร์ IaaS และ PaaS และเลเยอร์ SaaS ร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศของเรา โดยอาศัยประโยชน์จากชิพที่เราพัฒนาขึ้นมาเอง อัลกอริธึ่มทางคณิตศาสตร์และการออกแบบสถาปัตยกรรมของเรา การใช้แพลตฟอร์มแบบ Full-Stack จะช่วยให้ลูกค้ามุ่งความสนใจไปที่การสร้างสรรค์นวัตกรรมทางธุรกิจ โดยไม่ต้องเสียทรัพยากรอันมีค่าไปกับการสร้างแพลตฟอร์มเฉพาะของตัวเอง” มร. หลู่ ฉี ประธานบริหาร ฝ่ายขายโซลูชั่นและการตลาด กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ กล่าว
“หัวเว่ยให้บริการโซลูชั่นแบบต่างๆ ที่มีมาตรฐานครอบคลุมอุตสาหกรรมต่างๆ และ Digital Platform ของเราก็สามารถใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลายได้ เพราะรองรับทั้งระบบไพรเวทคลาวด์ และคลาวด์สาธารณะ นอกจากนี้ หัวเว่ยยังสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างที่ได้ประโยชน์ทุกฝ่าย ซึ่งผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นของเราสามารถที่จะทำงานร่วมกับของผู้ให้บริการรายอื่น ๆ ทำให้ลูกค้ามีอิสระในการเลือกใช้โซลูชั่นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการเฉพาะของพวกเขา"
หลู่ ฉี ยังได้เสริมว่า “Digital Platform ยึดมั่นในแนวทางที่เปิดกว้างของหัวเว่ย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทคู่ค้าสามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่น Upper-layer ได้เร็วขึ้น และลูกค้าก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ดิจิทัลได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ โดยการให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าทางธุรกิจ แทนที่จะเสียเวลาไปกับการผนวกรวมเทคโนโลยีพื้นฐาน หัวเว่ยตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระยะยาวของลูกค้าด้วยการใช้แนวทางนี้”
ในงาน HUAWEI CONNECT 2018 กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย ได้สรุปให้ผู้ร่วมงานได้เห็นถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นมาของ Digital Platform โดยการยกระดับความสามารถเหล่านี้เพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจต่างๆ สามารถแข่งขันและเติบโตได้ในโลกดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นทุกวันนี้ ความสามารถเหล่านี้ประกอบด้วย
ด้วยความเชี่ยวชาญของหัวเว่ย เขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเทียนจิน (Tianjin Economic-Technological Development Area - TEDA) จึงสามารถออกแบบและพัฒนาโซลูชั่น Smart City "1 + 4 + N" (หมายถึง หนึ่งศูนย์กลาง สี่แพลตฟอร์ม บวกด้วยแอพพลิเคชั่นสุดล้ำ) ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI โดย "1" สื่อถึง ศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ (Intelligent Operations Center - IOC) ที่ทำหน้าที่เป็น "สมองของเมือง" ด้วยการรวบรวมข้อมูลที่มาจากบริการต่าง ๆ ของรัฐบาล องค์กรธุรกิจ และหน่วยงานบริการประชาชน ผ่านทางอินเทอร์เน็ตและ IoT โดยใช้เทคโนโลยี AI เป็นขุมพลังขับเคลื่อน ซึ่งถือเป็นการนำเอาขีดความสามารถด้านการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพมาช่วยพลิกโฉม Tianjin BinHai New Area ให้กลายเป็นเมืองอัจฉริยะ
โซลูชั่นนี้ประกอบด้วยแพลตฟอร์ม AI สี่แพลตฟอร์ม ที่ทำงานสื่อสารกับ IOC อย่างใกล้ชิด เพื่อมอบบริการอัจฉริยะต่างๆ อาทิ
ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของอุตสาหกรรมต่าง ๆ โซลูชั่น Smart Campus จะเข้ามาสนับสนุนการเติบโตและขับเคลื่อนความสามารถด้านการแข่งขันให้กับองค์กรธุรกิจทั่วโลก ทั้งนี้ การสร้าง Smart Campus จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ลึกซึ้ง และแม่นยำมากขึ้น และสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่มีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือ และมีความเกี่ยวข้องอย่างแท้จริงให้กับลูกค้า ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการรองรับการใช้งานในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของอุตสาหกรรมในวงกว้าง หัวเว่ยจึงนิยามหลักการทำงานแพลตฟอร์ม Smart Campus ไว้ 4 ข้อหลัก ๆ ดังนี้
หัวเว่ยกำลังดำเนินโครงการนำร่องในการติดตั้งโซลูชั่นแคมปัสที่เป็นระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรม ที่สำนักงานของบริษัทเองใน 172 ประเทศทั่วโลก ขณะที่ว่านเคอ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของจีน ก็กำลังนำเอาโซลูชั่น Smart Campus ของหัวเว่ยมาใช้ เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของธุรกิจหลักของบริษัท ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนานวัตกรรม และเร่งผลักดันโอกาสใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทยังร่วมมือกันจัดตั้งห้องปฏิบัติการนวัตกรรม รวมถึงสำรวจและร่วมลงทุนในสถานการณ์และโมเดลใหม่ ๆ เพื่อสร้างสรรค์ระบบนิเวศสำหรับการพัฒนาในอนาคต
หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับลูกค้าในระยะยาว โดยใช้แนวทางที่มุ่งเน้นอนาคต เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ดิจิทัลด้วยแพลตฟอร์มที่ทรงประสิทธิภาพ ปัจจุบัน มีบริษัทในทำเนียบ Fortune Global 500 ถึง 211 บริษัท (รวมทั้งบริษัทในทำเนียบ Fortune Global 100 จำนวน 48 บริษัท) ที่เลือกหัวเว่ยเป็นพันธมิตรในการพลิกโฉมธุรกิจของพวกเขาสู่ดิจิทัล
การประชุม HUAWEI CONNECT 2018 จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ็กซ์โป ระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม ภายใต้ธีม "Activate Intelligence" โดยงานนี้เปิดกว้างสำหรับความร่วมมือและการแบ่งปัน เพื่อให้องค์กรทุกแห่งได้เข้ามามีส่วนร่วมในโลกอัจฉริยะ ผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้และมุมมองจากเหล่าผู้นำความคิดในอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารภาคไอซีที ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม และหุ้นส่วนในระบบนิเวศ เพื่อเร่งการเดินหน้าและสำรวจโอกาสใหม่ ๆ
Sign in to read unlimited free articles