จาก Bard สู่ Gemini Advanced มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง | Techsauce

จาก Bard สู่ Gemini Advanced มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง

ล่าสุด Google ได้เปลี่ยนโฉม Bard เป็น Gemini Advanced แล้ว รวมถึงยังเปิดตัวแอปพลิเคชัน Gemini AI บนสมาร์ตโฟนทั้งระบบ iOS และ Android อีกด้วย มาดูกันว่าจะมีอะไรอัปเกรดใหม่บ้าง !

Bard สู่ Gemini Advanced มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง

ทาง Google เผยถึงสาเหตุของการเปลี่ยนโฉมในครั้งนี้ว่า บริษัทต้องการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น และ Gemini คือตระกูลโมเดลที่มีความสามารถมากที่สุดของบริษัท

ปัจจุบันผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Gemini โมเดล Pro 1.0 ได้แล้ว ซึ่งรองรับถึง 40 ภาษา รวมกว่า 230 ประเทศทั่วโลก Google ยังได้เปิดตัวบริการ Gemini Advance ที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดล Ultra 1.0 ถือว่าเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ก้าวหน้าที่สุดของบริษัท


Gemini Advanced มีอะไรใหม่?

ข้อมูลจาก blog.google เผยว่า Gemini Advanced ได้รับการพัฒนาให้ฉลาดขึ้นมาก มันสามารถเข้าใจงานที่มีความซับซ้อนได้ดีกว่าเดิม เช่น การเขียนโค้ด การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ และงานที่ใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์ 

จุดเด่น Gemini  ของรุ่น Advanced คือ มันสามารถสนทนากับผู้ใช้ได้ราบรื่นมากขึ้น ทั้งในแง่ของการตอบคำถามโดยให้รายละเอียดครบถ้วน และการจดจำสิ่งที่ผู้ใช้เคยพูดก่อนหน้านี้ ทำให้ Gemini Advanced เข้าใจรายละเอียดในบทสนทนาได้ดีขึ้นนั่นเอง

ตัวอย่างความสามารถของ Gemini Advanced 

  • ทำหน้าที่เป็นติวเตอร์ส่วนตัว สามารถสร้างคำอธิบายทีละขั้นตอนได้ละเอียด และสร้างข้อสอบง่าย ๆ ขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นความสามารถที่เหมาะในการใช้กับการเรียนการสอน
  • แก้ไขปัญหาการเขียนโค้ดขั้นสูง สามารถช่วยประเมินแนวทางการเขียนโค้ดต่าง ๆ และเลือกวิธีที่ดีที่สุดในการเขียนโค้ด
  • คิดไอเดียใหม่ ๆ ให้ Digital Creator สามารถคิดไอเดียทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ วิเคราะห์แนวโน้มที่คาดว่าจะดี และคิดหาวิธีในการเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น

ทาง Google กล่าวว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นสำหรับ Gemini Advanced พวกเขาจะปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ เข้าไปอีก ในตอนนี้ Gemini Advanced ให้บริการในภาษาอังกฤษมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก (รวมประเทศไทยด้วย)

ผู้ที่สนใจใช้งาน Gemini Advanced สามารถใช้งานผ่านแผน Google One AI Premium สนนราคาอยู่ที่ 19.99 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (ราว 718 บาท) และยังได้รับพื้นที่เก็บข้อมูลบน Google One จำนวน 2 TB รวมถึงสามารถใช้ Gemini ใน Gmail, เอกสาร, สไลด์, ชีต และอื่น ๆ ได้ในเร็ว ๆนี้  *ตอนนี้สามารถทดลองใช้ 2 เดือนแบบไม่มีค่าใช้จ่าย

Gemini บนสมาร์ตโฟน

แอปพลิเคชัน Gemini ใหม่สามารถใช้ได้บนระบบ iOS และ Android ซึ่งผู้ใช้จะสามารถใช้งาน AI ช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ ผ่านสมาร์ตโฟนได้อย่างง่ายดาย เช่น หากรถยางแบน ก็สามารถถ่ายรูปและขอคำแนะนำหรือวิธีแก้ปัญหาจาก AI ได้ หรือกำลังจะมีงานเลี้ยง ก็สามารถให้ Gemini ช่วยออกแบบการ์ดเชิญได้เช่นเดียวกัน

เทียบ 3 AI Chatbot ใครคือตัวตึง

เรียกได้ว่า AI Chatbot จากทั้ง 3 เจ้าอย่าง OpenAI, Microsoft,และ Google มีจุดเด่นที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้งานจึงควรเทียบกับประเภทงานของผู้ใช้ ซึ่ง Techsauce สรุปมาให้ ดังนี้

  • ChatGPT Plus: เหมาะกับงานที่มีต้องการทักษะการเขียนที่ดี และให้คำตอบยาว 
  • Copilot Pro: เหมาะกับเรื่องการเขียนโค้ดอย่างมากและงานที่ต้องการคำตอบสั้น ๆ เฉพาะเจาะจง รวมผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Microsoft อาจจะมอง AI ตัวนี้เป็นตัวเลือกแรก
  • Gemini Advanced: เหมาะกับงานที่มีเนื้อหาซับซ้อน ต้องการ AI ที่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ Gemini ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี และยังสามารถใช้งานกับเครื่องมืออื่น ๆ ของ Google ได้

อ้างอิง: cnbc, blog.google, mspoweruser, support.microsoft

Sign in to read unlimited free articles

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Jensen Huang ตอบประเด็นอนาคต AI ยังไงต่อ ? ในงาน GTC 2024

บทความนี้ Techsauce ชวนมาฟังความเห็นของ CEO บริษัทชิปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เกี่ยวกับอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ในงาน GTC 2024...

Responsive image

SpaceVIP จัดทริปกินมื้อหรูระดับมิชลินบนอวกาศ สนนราคาต่อหัว 17.8 ล้านบาท

โอกาสสำหรับการทานอาหารสุดหรูบนอวกาศมาถึงแล้ว SpaceVIP เตรียมเปิดประสบการณ์การทานอาหารจากเชฟระดับ Michelin Star ที่ความสูงกว่า 100,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเลในการผจญภัยบนขอบอวกาศ โอกา...

Responsive image

Rare Beauty จะเปลี่ยนเจ้าของ? แหล่งข่าวชี้ Selena Gomez เตรียมขายแบรนด์

Rare Beauty จะเปลี่ยนเจ้าของ? ข่าวจาก Bloomberg ออกมาว่าตอนนี้ Selena Gomez ได้เริ่มดำเนินการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุนเพื่อประเมินมูลค่าแบรนด์แล้ว...