รู้จัก Siam Capital กองทุนเงินร่วมลงทุนในอเมริกา ก่อตั้งโดย คุณสิตา จันทรมังคละศรี นักลงทุนชาวไทยที่ใส่ใจการบริโภคอย่างยั่งยืน | Techsauce

รู้จัก Siam Capital กองทุนเงินร่วมลงทุนในอเมริกา ก่อตั้งโดย คุณสิตา จันทรมังคละศรี นักลงทุนชาวไทยที่ใส่ใจการบริโภคอย่างยั่งยืน

ถ้าติดตามแนวโน้มการลงทุนของ VC, CVC หลายกองทุนก็พร้อมจะลงทุนในสตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจ Impact Tech, Climate Tech หรือที่สอดคล้องกับ ESG โดยในบทความนี้จะพาไปรู้จัก Siam Capital กองทุนเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) ซึ่งก่อตั้งในปี 2564 โดยนักลงทุนชาวไทย คุณสิตา จันทรมังคละศรี

สำหรับเป้าหมายของกองทุน Siam Capital LLC คือ มุ่งลงทุนเพื่อแสวงหาผลกำไรในธุรกิจที่สร้างนวัตกรรมเพื่อผู้คนและโลกที่ดีขึ้น โดยเน้นการลงทุนในธุรกิจที่เริ่มจัดตั้งได้ไม่นานและธุรกิจที่เริ่มอยู่ตัวแล้ว (Early Stage Venture & Late Stage Venture) ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับลงทุนให้สตาร์ทอัพ เว็บไซต์ Crunchbase ให้ข้อมูลว่า Siam Capital ลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพไปแล้ว 6 ราย ซึ่งรวมไปถึงธุรกิจที่ให้ความสำคัญในเรื่องความหลากหลายจำนวน 2 ราย

Siam Capital

Siam Capitalหากจำกันได้ Siam Capital ยังเป็นหนึ่งในสามกองทุนที่ Beacon Impact Fund ได้ลงทุนไว้ โดย Beacon Impact Fund ของ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon Venture Capital หรือ Beacon VC) คือกองทุนที่เป็นส่วนหนึ่งของเงินให้สินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Financing and Investment) ของธนาคารกสิกรไทย 

ในงาน Exclusive Dinner with Siam Capital คุณสิตาออกตัวก่อนว่า เธอไม่ได้เป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่เป็นคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และการเป็นนักลงทุนก็สร้างโอกาสแห่งความมั่งคั่งได้ โดยเฉพาะการลงทุนในบริษัทที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน, ESG หรือสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อร่วมลดความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Tech) ซึ่งถ้าพิจารณาในช่วงปี 2015 - 2021 จะพบข้อมูลที่บ่งชี้ได้ว่า Climate Tech เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตและได้เป็นยูนิคอร์นหลายราย นอกจากนี้ มูลค่าตลาดของธุรกิจในกลุ่มนี้ยังสูงขึ้นเรื่อยๆ 

ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า สหรัฐอเมริกา จีน และสหภาพยุโรป เตรียมทุ่มเงินกว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและเพื่อความยั่งยืน 

“สำหรับ Siam Capital เราเน้นลงทุนในธุรกิจ (Private Sector) ที่ใส่ใจทั้ง 3 เรื่อง คือ ความยั่งยืน ผู้บริโภค และ เทคโนโลยี หรือในความหมาย นวัตกรรมที่ทำให้โลกและชีวิตผู้คนดีขึ้น โดยเรามีทีมงานที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจซึ่งมีมูลค่าเป็นพันล้านดอลลาร์ เราใช้เงินลงทุนไปแล้วเกือบ 40 ล้านดอลลาร์ มากพอ ๆ กับเงินลงทุนจากบริษัทที่เป็นเบอร์ต้น ๆ ของโลก” คุณสิตากล่าว

Siam Capital

Siam Capital

จากนั้น คุณสิตาบอกว่า แม้กองทุนอื่นที่ก่อตั้งมานานและมีประสบการณ์การลงทุนในด้านนี้จะลงทุนเป็นตัวเงินจำนวนมากถึงราว 78% ของเงินทุนที่มีการระดมทุนได้ แต่การที่ Siam Capital ยังถือเป็นผู้จัดการกองทุนหน้าใหม่ในตลาดและเลือกลงทุนในธุรกิจที่แตกต่างจากกองทุนอื่น โดยมุ่งลงทุนเฉพาะผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืนและสภาพภูมิอากาศจาก ‘วิถีการบริโภคแบบใหม่’ จึงมีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย ดังนี้

  • ด้านการบริโภคแบบยั่งยืน - ผู้คนจะใส่ใจเรื่องอาหารยั่งยืนมากขึ้น พร้อมกันนี้ก็จะใส่ใจเรื่องการบริโภคอย่างยั่งยืน (Conscious Consumption) มากตามไปด้วย

  • ด้านการบริโภคพลังงานจากแหล่งที่ยั่งยืน - ภาพของโครงสร้างพื้นฐานประเทศกำลังเปลี่ยนไปจากการบริโภคพลังงานที่เปลี่ยนไป เช่น การที่ไทยขึ้นเป็นผู้นำในตลาด EV ของภูมิภาคอาเซียน

  • ด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน - จะมีการปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอีกมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการเงิน ประกัน ค้าปลีก อีคอมเมิร์ซ ซึ่งโครงสร้างนี้เองที่จะทำให้เกิดระบบใหม่ที่ยั่งยืน 

ยุทธศาสตร์การลงทุนของ Siam Capital มี 3 รูปแบบ

คุณสิตากล่าวถึงศักยภาพของประเทศไทย ว่ามีโอกาสที่จะเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สำคัญของเอเชีย จากการเปิดรับเชื่อมต่อข้ามพรมแดน การร่วมมือกัน และการวางกลยุทธ์ที่มีรากฐานมาจาก Synergy และจากประเด็นนี้ ผู้ก่อตั้ง Siam Capital จึงเผยยุทธศาสตร์ด้านพันธมิตรและการลงทุนเอาไว้ 3 ด้าน ดังนี้

  1. เป็นผู้ร่วมลงทุนในธุรกิจไทย นำองค์ความรู้และประสบการณ์การลงทุนในเวทีนานาชาติมาช่วยต่อยอดธุรกิจของสตาร์ทอัพไทย เพื่อให้สตาร์ทอัพไทยสามารถเติบโตและขยายตลาดได้อย่างยั่งยืน

  2. เป็นพาร์ทเนอร์ในการทำ Synergy โดยนำโซลูชันจากบริษัทที่ Siam Capital ลงทุนเอาไว้ มาปรับใช้ในประเทศไทย ทำให้เกิดนวัตกรรมขั้นสูงที่ทำตลาดข้ามพรมแดนระหว่างไทยกับ SEA ได้ ตลอดจนการวางกลยุทธ์เพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจให้แก่ลูกค้าในไทย

  3. เป็นสะพานเชื่อมด้านนวัตกรรมให้แก่ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดระบบการเชื่อมต่อทางการค้าและผลักดันให้ตลาดไทยเติบโตขึ้น สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มียูนิคอร์นเกิดใหม่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และช่วยเปลี่ยนผ่านประเทศเข้าสู่ Thailand 4.0

Siam Capitalผู้ที่มาร่วมงาน Exclusive Dinner with Siam Capital มาจากหลากหลายภาคส่วน อาทิ NSTDA, DEPA, New Energy Nexus และกองทุนที่สนใจในการลงทุนเรื่อง Sustainability เช่น Beacon VC, ADB Ventures, Innopower, TOP Ventures, Betagro Ventures, MAX Ventures และ Singha Ventures

ผู้ก่อตั้ง Siam Capital อธิบายเพิ่มว่า ผู้บริโภคเป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญของแทบทุกสิ่งอย่างบนโลกใบนี้ พร้อมยกตัวอย่างบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Tesla ที่ผลิต EV เพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค จนบริษัทมีมูลค่าทางธุรกิจสูงเป็นประวัติศาสตร์ของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า Amazon ธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตอย่างรวดเร็วจากการทำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ซึ่งลูกค้าที่จับจ่ายใช้สอยก็คือผู้บริโภคนั่นเอง 

"เราเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงจะถูกขับเคลื่อนโดย ‘ผู้บริโภค’ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แล้วมันมีความหมายอย่างไรต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่อยู่รอบตัวของเรา?  เราคิดว่าวิธีเดียวที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านความยั่งยืนคือ เราควรลงทุนในบริษัทที่ช่วยแก้ไขปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศหรือด้านสิ่งแวดล้อม และร่วมกันรณรงค์ให้มีการใช้โซลูชันส์ที่ส่งเสริมความยั่งยืนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"

อย่างไรก็ตาม เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน คุณสิตาย้ำว่า โลกยังต้องการความร่วมมืออย่างมากจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนผู้อยู่ในระบบนิเวศทั้งไทยและเทศ และในขณะเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกหรือเกิดจากความจำเป็น ผู้บริโภคก็ต้องการเปลี่ยนวิธีที่จะมีส่วนร่วมในด้านความยั่งยืน ในทุกด้านของชีวิต และสิ่งนี้จะเกิดขี้นกับผู้บริโภคในทวีปต่าง ๆ จนเกิดเป็น ‘โครงสร้างพื้นฐานการบริโภคยุคใหม่’ ที่ต้องติดตามดูว่า ผู้บริโภคซื้ออะไร อย่างไร ใช้เวลาไปกับอะไร ส่วนภาคธุรกิจเองก็ต้องเปลี่ยนวิธีการผลิต เพราะผู้บริโภคสนใจด้วยว่า สินค้านั้นทำมาจากอะไร ประกอบการตัดสินใจซื้อ

Sign in to read unlimited free articles

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เช็คจุดน้ำท่วมเรียลไทม์ ผ่านแอปฯ BMA Traffic น้ำท่วม-รถติด-อุบัติเหตุ ดูได้หมด

BMA Traffic เป็นแอปพลิเคชันที่เราสามารถดูระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่ติดตั้งอยู่ทั่วกรุงเทพมหานครแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถสำรวจพื้นที่น้ำท่วมหรือรถติดผ่านแอปฯ ได้ทันที...

Responsive image

เส้นทางของ Kakao จากสตาร์ทอัพสู่หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลแถวหน้าในอุตสาหกรรมบันเทิง

สตาร์ทอัพที่เริ่มต้นด้วยคนเพียง 2 คน สู่อาณาจักรไอทียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ บทความนี้ Techsauce จะชวนดูความสำเร็จของ ‘Kakao’ บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 24.7 ล้านล้านวอน หรือราว 6.7 ...

Responsive image

2024 ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยต้องโฟกัสอะไร? รู้จักกลยุทธ์ 2C โอกาสใหม่ของธุรกิจไทย เจาะปัจจัยหลักที่นักการตลาดดิจิทัลต้องรู้

บทความนี้ Techsauce จึงจะพามารู้จักกับ 2 กุญแจชิ้นสำคัญอย่าง Content & Convenience ที่กุมชะตาธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยในยุคดิจิทัล...