SMEs ท่องเที่ยวไทยจะเดินหน้าต่ออย่างไร เมื่อการแข่งขันในยุคใหม่ต้องอาศัยเทคโนโลยี | Techsauce

SMEs ท่องเที่ยวไทยจะเดินหน้าต่ออย่างไร เมื่อการแข่งขันในยุคใหม่ต้องอาศัยเทคโนโลยี

“การท่องเที่ยวไทย” ถือเป็นภาคอุตสาหกรรมที่มีบทบาทต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปี 2562 ประเทศมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวสูงถึง 3.0 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 17.8% ของผลิตฑ์มวลรวมของไทย (GDP) แต่ในวันที่ต้องเผชิญกับวิกฤตของการแพร่ระบาด ในปี 2563 การท่องเที่ยวกลับต้องชะงัก รายได้ลดลงกว่า 70.8% จากปีที่ผ่านมา เหลือแค่ 8.8 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 5.65% ของ GDP   และรุนแรงมากขึ้น ในปี 2564 ที่รายได้ลดลง เหลือเพียง  3.56 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.20% ของ GDP เท่านั้น 

ดังนั้น การจะเร่งสปีดให้ภาคการท่องเที่ยวไทย กลับไป “อยู่ในจุดเดิม หรือ ดีกว่าเดิม” จึงเป็นอีกหนึ่งประเด็นท้าทายที่วันนี้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างต้องหันมามองและร่วมเดินหน้าไปพร้อมๆ กัน ผ่านการดำเนินงานที่บูรณาการเพื่อเข้ามาช่วยให้ผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวไทยสามารถฟื้นตัวและไปต่อได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของเงินทุนต่างๆ  การพัฒนาทักษะให้ความรู้ และจัดหาเครื่องมือเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้ประกอบ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่เป็นกลุ่มหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้เกิดการเปลี่ยนผ่านการทำงานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ทันและรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เป็นต้น

ภาคการท่องเที่ยวไทย ยังเจอปัญหา 

แม้ว่าวันนี้สถานการณ์วิกฤตเริ่มคลี่คลาย การท่องเที่ยวไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากการสนับสนุนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน จนทำให้ปี 2566 ต่างคาดการณ์ว่า การท่องเที่ยวไทย จะกลับมาสร้างรายได้ให้ประเทศ ไม่น้อยกว่า 2.38 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว แต่ในมุมกลับกัน ในวันที่ดูเหมือนว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย เริ่มคุ้นชินและปรับตัว สามารถดำเนินธุรกิจไปต่อได้บ้างแล้วนั้น ในความเป็นจริงแล้วผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในกลุ่ม SMEs ของภาคการท่องเที่ยวต่างก็กำลังเผชิญกับปัญหาที่หลายคนอาจนึกไม่ถึง เพราะจากการสำรวจ ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) และ เทคซอส มีเดีย ที่ลงพื้นสัมภาษณ์กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ภาคการท่องเที่ยว พบว่า ปัญหาหลักๆ ที่ผู้ประกอบการต้องเจอ มีดังนี้ 

  • ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า ปัญหาสุดคลาสสิค

นอกจากการแข่งขันกันด้วยราคาที่ใครต่ำสุดคือผู้ชนะ ครองใจผู้บริโภค ที่ทำให้เป็นอุปสรรคจนทำให้รายได้ที่เคยเฟื่องฟูของหลายธุรกิจ อย่าง ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว เป็นต้น กลับต้องหดหายลงแล้ว ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมนี้ ยังขาดความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนเครื่องมือที่ทันสมัย ที่เข้ามาช่วยส่งเสริมในการทำการตลาด ทั้งที่วันนี้ ได้มีการพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ เข้ามาตอบโจทย์และเข้ามาช่วยในการทำงานและการทำธุรกิจในหลายเรื่องและหลากหลาย แต่พวกเขาก็ยังไม่แน่ใจว่า เทคโนโลยี หรือ เครื่องมือแบบไหนที่เหมาะสมกับธุรกิจ ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างรายได้ให้กับพวกเขามากที่สุด 

  • ขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ตรงตามความต้องการ

การหาคนที่ใช่ เหมาะสมกับงานที่ทำถือเป็นอีกปัญหาที่ผู้ประกอบการต้องเจอ เพราะการที่จะดำเนินงานสรรหาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งในเรื่องของการมีใจรักในงานบริการ มีความรู้ความสามารถด้านภาษา และมีคุณสมบัติที่เหมาะสมตรงตามที่แต่ละบริษัทต้องการนั้น เป็นไปได้ยาก ขณะที่บุคลากรที่มีคุณภาพ เก่งๆ และมีความสามารถก็เกิดการลาออก ย้ายงานอย่างต่อเนื่อง (Turnover rate) สาเหตุสำคัญ นอกจากการแย่งซื้อตัวของกลุ่มบริษัทคู่แข่งที่มีกำลังจ่ายสูงแล้ว การขาดระบบหรือเครื่องมือที่เข้ามาช่วยบริหารงานภายในองค์กร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของบุคลากรและสร้างแรงจูงใจในการทำงาน รักษาความสัมพันธ์ให้บุคลากรทำงานอยู่กับองค์กรได้นานขึ้น ก็เป็นอีกข้อจำกัดที่พวกเขากำลังเผชิญ

  • ขาดเครื่องมือ ระบบที่เข้ามาช่วยในการปรับตัวให้ทันต่อการแข่งขัน

นอกจาก 2 ปัญหาข้างต้นแล้ว ผู้ประกอบการ SMEs จุดปัญหาร่วมที่เราพบคือ ผู้ประกอบการ SMEs ภาคการท่องเที่ยวยังขาดเครื่องมือ ระบบ เทคโนโลยีดิจิทัล ที่เข้ามาช่วยในการสร้างศักยภาพและยกระดับการทำงาน ตลอดจนการทำธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานด้านการตลาดและการบริหารภายในองค์กร รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อรักษาลูกค้าเก่าและดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ไปพร้อมๆ กับการบริหารงานภายในที่ดีขององค์กร


ETDA ชวน Service Provider ร่วมแก้ปัญหา SMEs ท่องเที่ยว 

ETDA  ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้คนไทยเกิดการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มั่นคงปลอดภัย เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการพัฒนาชีวิตให้พร้อมรองรับโลกอนาคตอย่างมั่นใจ จึงร่วมกับพาร์ทเนอร์ด้านท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกสาร รวมกว่า 15 หน่วยงาน อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) The Finlab powered by UOB Amazon Web Services (Thailand) และ เทคซอส มีเดีย จัดกิจกรรม “HACK for GROWTH” ภายใต้แนวคิด  Make a Chance to Grow Together” เปิดพื้นที่ให้ Startup, Service Provider, ผู้พัฒนานวัตกรรมหน้าใหม่ หรือคนที่มีของ มีนวัตกรรม โซลูชัน ระบบ แพลตฟอร์มใหม่ ๆ หรือที่ถูกพัฒนามาจากของที่มีอยู่เดิม ได้มาร่วมแข่งขันประชันไอเดีย นำเสนอนวัตกรรม โซลูชัน เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ให้สามารถทรานส์ฟอร์มการทำงานและการทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสู่การเติบโตกว่าที่เคยเป็น ชิงเงินรางวัล มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท พร้อมโอกาสในการพัฒนานวัตกรรมและบริการดิจิทัลไปกับผู้เชี่ยวชาญอย่างมืออาชีพ 


ภายใต้โจทย์สุดท้าทายที่ตอบโจทย์ SMEs ท่องเที่ยวไทยโดยตรง ดังนี้ 

R1: Revenue Growing

นวัตกรรม โซลูชัน ที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างยอดขายจากทรัพยากรที่มีอยู่ 

R2: Recruiting Better

นวัตกรรม โซลูชัน ที่จะช่วยสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถและตรงตามที่องค์กรต้องการ

R3: Retaining People Growth

นวัตกรรม โซลูชัน เพื่อพัฒนาการบริหารจัดการวิธีการทำงานของทีมภายในองค์กร


คุณสมบัติผู้สมัคร  

  1. อายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่จำกัดเพศ อาชีพ ประสบการณ์ สัญชาติ/เชื้อชาติ ใดก็ได้
  2. พักอาศัยอยู่ประเทศไทยในระหว่างโครงการ
  3. สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตลอดโครงการ
  4. สมัครรูปแบบทีม 3-5 ท่าน โดย 1 ท่านมีชื่อเพียงทีมเดียวเท่านั้น
  5. นวัตกรรม โซลูชัน ที่สมัครเข้าร่วมโครงการต้องเป็นนวัตกรรม โซลูชันใหม่ / ต่อยอดจากของเดิม / เป็นผู้คิดค้นด้วยตนเอง
  6. นวัตกรรม โซลูชันที่นำเสนอสอดคล้องกับโจทย์ที่ประกาศในโครงการ
  7. นวัตกรรม โซลูชันที่นำเสนอหรือองค์ประกอบ (ภาพ, เสียง, เนื้อหา) จะต้องเป็นผลงานที่ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลอื่น
  8. สามารถนำเสนอผลงานเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษได้
  9. ยินดียอมรับผลการตัดสิน รวมถึงหลักเกณฑ์ เงื่อนไขในการตัดสินทุกประการ


เงื่อนไขและข้อตกลงในการเข้าร่วมกิจกรรม

  1. สมาชิกทีมอย่างน้อยทีมละ 3 ท่าน ต้องสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ตลอดทั้งโครงการ
  2. ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 20 ทีมสุดท้าย จะได้รับโอกาสในการทดสอบ Product Trial กับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว พร้อมทั้งกิจกรรม Networking เพื่อขยายเครือข่ายทางธุรกิจกับ Partner


รางวัลสำหรับทีมผู้ชนะ

- รางวัลชนะเลิศ: เงินรางวัล 500,000 บาท พร้อมโล่รางวัล และประกาศนียบัตร

- รองชนะเลิศอันดับที่ 1: เงินรางวัล 250,000 พร้อมโล่รางวัล และประกาศนียบัตร

- รองชนะเลิศอันดับที่ 2: เงินรางวัล 100,000 พร้อมโล่รางวัล และประกาศนียบัตร 

- รางวัลขวัญใจกรรมการ 2 รางวัล รางวัลละ 75,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร

ทีมผู้ชนะทั้ง 3 ทีม

- ได้โอกาสเข้าร่วมนำเสนอผลงาน (Pitching) บนเวที Tech Showcase ในงาน Techsauce Global Summit 2023

- ได้รับ AWS Credits จาก Amazon Web Services

รางวัลสำหรับทีมที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ 20 ทีม

- ประกาศนียบัตร - ได้รับบัตรเข้าร่วมงาน Techsauce Global Summit 2023


ตารางการจัดกิจกรรม 

10 พ.ค. - 12 มิ.ย. 66 - เปิดรับสมัครทีมเข้าร่วมโครงการ 

19 มิ.ย. 66 - ประกาศรายชื่อ 40 ทีมที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ

26 มิ.ย. 66 - กิจกรรม Open House 

26 และ 27 มิ.ย. 66 - กิจกรรม Workshop

29 มิ.ย. 66 และ 11 ก.ค. 66 - กิจกรรม Mentoring

4 ก.ค. 66 - กิจกรรม Online Pitching 

6 ก.ค. 66 - ประกาศรายชื่อ 20 ทีมที่ได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

19 ก.ค. 66 - งานแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ 


เปิดรับสมัครร่วมกิจกรรมได้แล้วตั้งแต่ วันที่ 10 พฤษภาคม จนถึง 12 มิถุนายน 2566  สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ : https://www.etda.or.th/th/hackforgowth

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 

ติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ที่ เพจ ETDA Thailand: https://www.facebook.com/ETDA.Thailand  


Sign in to read unlimited free articles

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Jensen Huang ตอบประเด็นอนาคต AI ยังไงต่อ ? ในงาน GTC 2024

บทความนี้ Techsauce ชวนมาฟังความเห็นของ CEO บริษัทชิปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เกี่ยวกับอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ในงาน GTC 2024...

Responsive image

SpaceVIP จัดทริปกินมื้อหรูระดับมิชลินบนอวกาศ สนนราคาต่อหัว 17.8 ล้านบาท

โอกาสสำหรับการทานอาหารสุดหรูบนอวกาศมาถึงแล้ว SpaceVIP เตรียมเปิดประสบการณ์การทานอาหารจากเชฟระดับ Michelin Star ที่ความสูงกว่า 100,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเลในการผจญภัยบนขอบอวกาศ โอกา...

Responsive image

Rare Beauty จะเปลี่ยนเจ้าของ? แหล่งข่าวชี้ Selena Gomez เตรียมขายแบรนด์

Rare Beauty จะเปลี่ยนเจ้าของ? ข่าวจาก Bloomberg ออกมาว่าตอนนี้ Selena Gomez ได้เริ่มดำเนินการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุนเพื่อประเมินมูลค่าแบรนด์แล้ว...