ถอดบทเรียนการเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพของคุณชเวแจโฮ ซีอีโอบริษัท Drama& company บริษัทที่มีมูลค่าการลงทุนไปถึงระดับ Series D ที่เริ่มต้นจากบริษัทจัดเก็บนามบัตร ไปสู่ Remember แอปพลิเคชันครอบคลุมทุกเรื่องการสมัครงานสำหรับชาวเกาหลีใต้
คุณชเวแจโฮได้เล่าเรื่องราวจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพของตน พร้อมแนวคิดที่พาไปสู่ความสำเร็จ เทคนิคการหาทีมและการหานักลงทุน เรื่องราวความล้มเหลวและความประทับใจในการทำธุรกิจภายในงาน Comeup 2023 ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ใฝ่ฝันจะเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพ
จุดเริ่มต้นของบริษัท Drama& company เริ่มต้นจากความคิดของคุณชเวแจโฮ ที่อยากจะสร้าง Professional Network หรือเครือข่ายเพื่อการประกอบอาชีพ เหมือนอย่าง LinkedIn ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่ในเอเชียรวมถึงเกาหลี Professional Network ยังมีภาพที่ไม่ชัดเจน ซึ่งคุณชเวแจโฮจึงตั้งใจจะจับตลาดในกลุ่มผู้ใช้นี้
ชเวแจโฮคิดไปถึงเรื่องนามบัตรก่อนเป็นอันดับแรก โดยคิดว่าถ้าสร้างเว็บไซต์ทำนามบัตรออนไลน์เฉย ๆ คงไม่สามารถทำให้คนเข้ามาใช้งานเยอะ อยากมากก็คงได้สิบกว่าคนต่อวัน แต่จุดที่ชเวแจโฮมองเห็นคือ Pain point ของการรักษานามบัตร ยิ่งเราสร้างคอนเน็คชั่นมากเท่าไร นามบัตรเราก็จะมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นบริษัทของเขาจึงเริ่มต้นด้วยระบบรักษานามบัตรแบบออนไลน์นั่นเอง
ต่อมาได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน Remember ได้เปิดตัวฟีเจอร์เพิ่มเติมที่ครอบคลุมการใช้งานได้แก่
ปัจจุบัน Remember จึงกลายเป็นแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์สำหรับคนทำงาน โดยมียอดผู้ใช้งานในเกาหลีใต้กว่า 3.8 ล้านคน และ 1 ล้านคนในญี่ปุ่น
ชเวแจโฮกล่าวว่ามีสามสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นของธุรกิจนั่นก็คือ mindset ที่ตั้งใจจะแก้ปัญหาให้กับลุกค้าแบบครอบคลุม หา pain point ของลูกค้าให้ชัดเจน และต้องทีมที่ดี ทีมที่มีเป้าหมายไปในแนวทางเดียวกัน และสามารถทำงานร่วมกันได้เข้าขา ท้ายที่สุดคือนักลงทุนที่เข้าใจ vision ของบริษัท สามสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้บริษัทเติบโตได้อย่างรวดเร็วในระยะแรก
คุณชเวแจโฮกล่าวว่า แน่นอนว่าบริษัทสร้างใหม่ยังไงก็ไม่ได้รับความนิยมเท่ากับบริษัทชั้นนำอย่างแน่นอน ในช่วงแรกจึงต้องหาจากคนใกล้ตัวก่อน ไม่ว่าจะรู้จักบริษัทของตัวเองหรือไม่ก็ตาม ถ้าเข้าใจ Vision และเป้าหมายตรงกันแล้ว เชื่อว่านี่แหละคือทีมที่เหมาะสมสำหรับตัวเขาเอง
คุณชเวแจโฮกล่าวว่า ในฐานะ ceo มีความลำบากกว่าตอนเป็นพนักงานธรรมดามาก เนื่องจากถ้าเราไม่พอใจในการทำงานเราก็สามารถบ่นหัวหน้า บ่นบริษัทได้ แต่พอเราเป็นประธานเองล่ะ เราจะบ่นใคร?
เวลาที่บริษัทประสบปัญหา ผลลัพธ์ไม่ตรงเป้าหมาย พนักงานทำได้ไม่ตรงใจ เขามักจะมองเห็นว่าตัวเองคือต้นเหตุของปัญหาเพราะทุกขั้นตอนของบริษัทเขาเป็นคนสร้างมาเองกับมือ มันทำให้ทุกอย่างเหมือนชี้มาที่ตัวเอง เกิดเป็นความเครียด ความกดดันที่มากขึ้น
แต่ใช่ว่าในทุกวันจะเป็นความแต่ความผิดหวังและความเครียดเสมอไป ชเวแจโฮกล่าวว่าผลลัพธ์ที่เขาได้จากการทำงานไม่ว่าจะเป็น การออกฟีเจอร์ใหม่ๆ ผลตอบรับจากแอปพลิเคชัน หรือมีทีมที่สนใจร่วมงานกับบริษัท เป็นสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขและภูมิใจมาก นอกจากนี้เขายังภูมิใจในทีมงานของเขา ที่ขยันขันแข็งพาบริษัทให้ประสบความสำเร็จในระดับ Series D ได้ในปัจจุบัน
กับคำถามที่ว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าจะต้องหานักลงทุนเพิ่ม? ในฐานะที่ผ่านการระดมทุนมาหลายครั้ง แต่ส่วนตัวเขาไม่ได้มีขั้นตอนที่ตายตัว แต่สิ่งสำคัญคือความมั่นใจในธุรกิจของตนเอง หาคำตอบตัวเองให้ได้ว่าทำไมเราต้องทำธุรกิจนี้ แล้วมันจะสร้างอะไรถ้าได้เงินทุนเพิ่ม ถ้าเรามั่นใจในคำตอบแล้วละก็ ก็เริ่มหานักลงทุนได้เลย ดังนั้น ถ้าเราแน่วแน่ในธุรกิจของตนมากพอ เชื่อว่าไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้แน่นอน
อ้างอิง: rememberapp
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด