ภายหลังจากวิกฤต LUNA ตลาดสกุลเงินดิจิทัลยังคงมีแนวโน้มถดถอยสู่สภาวะ Crypto Winter อย่างต่อเนื่อง นักลงทุนเทขายสกุลเงินดิจิทัลควบคู่ไปกับความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่ได้กระตุ้นให้ผู้ใช้ลดลงจากรายได้ลดลง เกิดความเจ็บปวดในภาคส่วนเทคโนโลยีที่กำลังสูญเสียมูลค่าอย่างหนัก โดยเฉพาะ Exchange หลายเจ้าที่สูญเสียผู้ใช้งาน 

ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Coinbase แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอเรนซีที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ สูญเสียผู้ใช้งานกว่าล้านยูสเซอร์ ด้วยปริมาณการซื้อขายกับปริมาณผู้ใช้รายเดือนที่ลดลง ทำให้มีรายรับลดลงต่อเนื่องและขาดทุนสุทธิถึง 430 ล้านดอลลาร์ สูญเสียมูลค่ามากกว่า 70% ในปีนี้ ล่าสุด L.J. Brock หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล ประกาศเพิ่มเติมว่า Coinbase จะหยุดการจ้างงานใหม่ชั่วคราว รวมถึงการเลิกจ้างและยกเลิกข้อเสนอในหลายตำแหน่งเพื่อจัดลำดับความสำคัญทางธุรกิจท่ามกลางสภาพตลาดในปัจจุบัน

ก่อนภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปี 2022 Coinbase ถือเป็นหนึ่งในผู้นำวงการ  โดยบริษัทเพิ่มจำนวนพนักงานเป็นสามเท่า หลังจากเปิดตัว Nasdaq ในเดือนเมษายน 2564 Coinbase รายงานยอดขายในไตรมาสที่สองเพิ่มขึ้น 12 เท่าเป็น 2.28 พันล้านดอลลาร์ในขณะที่กำไรเพิ่มขึ้น 4,900% เป็น 1.6 พันล้านดอลลาร์ แต่บริษัทเทคโนโลยีที่มีอัตราการเติบโตกลับดูเหมือนจะได้รับผลกระทบหนักที่สุดในปีนี้ 

จากรายงานระบุว่า Coinbase เริ่มชะลอการจ้างงาน เพื่อประคับประคองให้บริษัทสามารถผ่านช่วงขาลงของตลาดสกุลเงินดิจิทัลไปได้ นอกจากนี้ Coinbase ยังต้องจัดการกับตลาด NFT ที่อยู่ช่วงในขาลงไม่ต่างกันหลังจากที่ได้เปิดให้ทำการซื้อขายในแพลตฟอร์มในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทว่าแผนการชะลอการจ้างงานที่ได้ประกาศออกมานั้นได้นำไปสู่การหยุดจ้างพนักงานใหม่โดยสิ้นเชิง ในขณะเดียวกันที่พนักงานซึ่งถูกจ้างมาทดแทนต่างกำลังตัดสินใจออกจากบริษัทเช่นเดียวกัน โดยที่ก่อนหน้านี้ Coinbase พึ่งประกาศเสริมกำลังพนักงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการจ้างพนักงาน 2,000 คนในปี 2565 เพื่อมุ่งพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์ที่เป็น Web3 ซึ่งมีการเปิดเผยว่า มีพนักงานเพิ่ม 1,218 คนในไตรมาสแรกของปี 2565 อย่างไรก็ตามในปัจจุบันยังไม่ชัดเจนว่ามีการยกเลิกสัญญาจ้างจำนวนเท่าใด 

การหยุดจ้างงานของ Coinbase เป็นการบ่งชี้ถึงสภาวะการแช่แข็งของตลาด Cryptocurrency ที่ต่อเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจระดับมหภาคได้ก่อให้เกิดความหวาดกลัวต่อนักลงทุนในทุกระดับ กระแสของบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกที่ดำเนินแผนการเลิกจ้างพนักงานในอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นในระดับที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก่อนหน้านี้ 2TM แพลตฟอร์มที่ได้รับการสนับสนุนจาก Softbank ก็ลดตำแหน่งงานกว่า 90 ตำแหน่ง เช่นเดียวกับผู้ให้บริการบล็อกเชน Cameron และ Tyler Winklevoss ผู้อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล Gemini ก็ได้ประกาศว่าพวกเขากำลัง เลิกจ้างพนักงานถึง 10 เปอร์เซ็นต์ รวมถึง Rain บริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลขนาดใหญ่ในตะวันออกกลางที่เลิกจ้างพนักงานหลายสิบคนเช่นเดียวกัน 

แคนดิเดทจำนวนหนึ่งเปิดเผยว่าตนตกที่นั่งลำบากจากการยกเลิกข้อเสนอของ Coinbase บุคคลที่ได้รับการว่าจ้างจาก Coinbase กล่าวว่าพวกเขาอาจสูญเสียวีซ่า OPT (Optional Practical Training) เนื่องจากข้อเสนอที่ถูกยกเลิก รวมถึงบางกลุ่มได้รับอีเมลที่รับรองการจ้างงานจากองค์กรแต่ก็ได้รับแจ้งข้อเสนอที่ถูกยกเลิกในสัปดาห์ต่อมา 

อย่างไรก็ตาม L.J. Brock ได้ระบุถึงความพยายามในการรับมือให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยกล่าวว่า “เราทำการตัดสินใจที่รอบคอบแล้วตามสภาวะตลาด และจะดำเนินการประเมินแคนดิเดททั้งหมดของเราต่อไปอย่างมีความรับผิดชอบ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับประโยชน์จากนโยบายการชดเชยของ Coinbase จะยังเข้าถึงศูนย์กลางของแหล่งข้อมูลด้านอาชีพต่างๆ ซึ่งรวมถึงการเตรียมตัวต่าง ๆ เช่น Interview Coaching, Resume Review รวมถึงโอกาสในการสร้างเครือข่าย” 

ท่ามกลางสภาพตลาดที่ขุ่นมัวซึ่งถาโถม ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุน การหมุนเวียนเงินทุนเข้าสู่สินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่าในโลกที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น VC ต่างออกโรงเตือนให้ผู้ประกอบจัดการ Portfolio ของตนเองเพื่อพร้อมรับเศรษฐกิจถดถอย นักลงทุนและผู้ติดตามข้อมูลทุกคนควรจับตามองการปรับแผนการขยายธุรกิจระดับโลกหลังจากนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินและคาดการณ์ถึงปัจจัยที่อาจเป็นผลกระทบต่อธุรกิจในอนาคต 

ที่มา 

Crypto winter has come, and Coinbase is in trouble

Softbank-Backed 2TM Cuts About 90 Jobs as Crypto Winter Lingers

Winklevoss Twins Aren’t Alone With ‘Crypto-Winter’ Job Cuts

Coinbase extends hiring pause for ‘foreseeable future’ and plans to rescind some offers