Central Retail โชว์ผลประกอบการปี 65 กวาดกำไร 7,605 ลบ. โต 2,648% เสนอจ่ายปันผล 0.48 บาท/หุ้น | Techsauce

Central Retail โชว์ผลประกอบการปี 65 กวาดกำไร 7,605 ลบ. โต 2,648% เสนอจ่ายปันผล 0.48 บาท/หุ้น

เซ็นทรัล รีเทล (Central Retail) ท็อปฟอร์มปี 2565 กวาดรายได้ 236,245 ล้านบาท โต 21% กำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท โต 2,648%พร้อมเสนอจ่ายปันผล 0.48 บาทต่อหุ้น

Central Retailคุณญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “เซ็นทรัล รีเทล ได้ดำเนินธุรกิจตามยุทธศาสตร์ CRC Retailligence และสามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างก้าวกระโดด โชว์ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2565 ด้วยรายได้รวมอยู่ที่ 65,147 ล้านบาท (+11% YoY) EBITDA 9,497 ล้านบาท (+18% YoY) และกำไรสุทธิ 3,417 ล้านบาท (+39% YoY) ส่งผลให้ตัวเลขผลประกอบการปิดปี 2565 เติบโตเกินเป้าที่วางไว้ 

โดยสามารถกวาดรายได้รวมทั้งสิ้น 236,245 ล้านบาท (+21% YoY) EBITDA 30,049 ล้านบาท (+50% YoY) และกำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท (+2,648% YoY) ทั้งนี้เซ็นทรัล รีเทล ยังพร้อมเสนอจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น 0.48 บาทต่อหุ้น โดยจะมีการอนุมัติอีกครั้งในการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี (AGM)” สำหรับความสำเร็จของเซ็นทรัล รีเทล มาจากความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจในเครือที่สร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่น ทั้งกลุ่มแฟชั่นที่พลิกโฉมประสบการณ์ใหม่ “New Omni Fashion” ด้วย Total Solution ครบวงจร และกลับมาโตแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม 

ส่วนกลุ่มฮาร์ดไลน์ ไทวัสดุขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 2 อย่างเต็มรูปแบบด้วยจำนวนสาขารวม 70 สาขา ใน 42 จังหวัดทั่วไทย ท็อปส์ เบอร์ 1 ฟู้ดรีเทลเมืองไทย ชูคอนเซปต์ใหม่ “Every Day Discovery” พร้อมเดินหน้าขยายสาขาอีก 15 สาขา รวมถึงศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ที่ยังมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง จนได้ชื่อว่าเป็นเบอร์ 1 ศูนย์การค้า Lifestyle and Experiential Community ที่มีสาขาครอบคลุมจังหวัดมากที่สุดในไทย นอกจากนี้เซ็นทรัล รีเทล ยังสร้างฐานการเงินที่แข็งแกร่ง บนกลยุทธ์ 3C คือ Cost บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด, 

Capex เน้นการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดใน Strategic Business และ Cash Flow ขยายขีดความสามารถในการจัดการเงินทุนหมุนเวียนให้มีความคล่องตัว และเพิ่มกระแสเงินสดให้มากขึ้น ทำให้ธุรกิจมีความ Fit & Firm และสามารถสร้างผลประกอบการกลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็วเกินคาด โดยสามารถแบ่งสัดส่วนยอดขายตามกลุ่มธุรกิจในปี 2565 ออกเป็น กลุ่มฟู้ด 40% กลุ่มฮาร์ดไลน์ 34% และกลุ่มแฟชั่น 26% และแบ่งตามประเทศเป็น ประเทศไทย 69%  เวียดนาม 24% และอิตาลี 7%

 นอกจากนี้ยอดขายบนแพลตฟอร์มออมนิแชแนลยังเติบโตขึ้นถึง 15% จากปีก่อน และมีสัดส่วนยอดขายจากแพลตฟอร์มนี้เป็น 18% ของยอดขายทั้งหมด และมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ล่าสุดเซ็นทรัล รีเทล ยังได้สร้างความสำเร็จเชิงกลยุทธ์ (Strategic Success) ด้วยการ Spin-off บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) ซึ่งเป็นบริษัทฯ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้สำเร็จ ด้วยมูลค่า Market Cap ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 อยู่ที่ 12,075 ล้านบาท ขึ้นแท่นหุ้น Market cap สูงสุดอันดับ 2 ของตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ (Service)  

นอกจากนี้เซ็นทรัล รีเทล ยังสร้างความสำเร็จก้าวสำคัญในเวียดนาม โดยปัจจุบันครองตำแหน่งผู้นำค้าปลีกต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และขึ้นแท่นอันดับ 1 ไฮเปอร์มาร์เก็ต และอันดับ 2 ศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ ด้วยจำนวนธุรกิจครอบคลุมใน 40 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศเวียดนาม และตอกย้ำความแข็งแกร่งในกลุ่มฟู้ด ด้วย 3 โมเดลสำคัญ อย่าง GO! ไฮเปอร์มาร์เก็ต, go! ซูเปอร์มาร์เก็ต และ Tops market ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของชาวเวียดนาม 

โดยจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล จะยังคงเดินหน้าต่อยอดธุรกิจในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง เพราะเล็งเห็นว่าเวียดนามเป็น Key Market ของเซ็นทรัล รีเทล ที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกมหาศาล และมีความพร้อมทางธุรกิจในหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจที่โตเร็ว ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว และมีกำลังซื้อสูง รวมถึงการขยายตัวของเมืองและธุรกิจโมเดิร์นเทรดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เซ็นทรัล รีเทล ได้เร่งเครื่องอัดฉีดงบลงทุน 5 ปี กว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อขยายอาณาจักรในเวียดนามอย่างเต็มที่ พร้อมผนึกความร่วมมือทั้ง Ecosystem ของเซ็นทรัล รีเทล เพื่อเสริมแกร่งความเป็นผู้นำทั้งในกลุ่มฟู้ด น็อนฟู้ด และพร็อพเพอร์ตี้ ในประเทศเวียดนาม 

โดยมีแผนที่จะเปิดศูนย์การค้า GO! สาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 5-7 สาขาในปีหน้า พร้อมทั้งตั้งเป้าขยายอาณาจักรเซ็นทรัล รีเทล ให้ครอบคลุมทั้งหมด 57 จังหวัดทั่วประเทศเวียดนาม และบรรลุยอดขาย 150,000 ล้านบาทในประเทศเวียดนามในอีก 5 ปีข้างหน้า  “เซ็นทรัล รีเทล พร้อมมุ่งหน้าสู่ The Next Sustainable Growth โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับทุกกลุ่มธุรกิจในแต่ละประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม 

โดยเส้นทางธุรกิจต่อจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล มีความมั่นใจที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากปัจจัยบวกหลายด้านในภาคธุรกิจค้าปลีกและบริการ โดยเฉพาะแรงเสริมจากการเปิดประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางเพิ่มมากขึ้น ทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี ถือเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล ซึ่งจะเอื้อประโยชน์โดยตรงต่อธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล

Sign in to read unlimited free articles

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

One Bangkok พัฒนากรุงเทพฯ ชูแนวคิด “The Heart of Bangkok” เมืองที่ใช้ใจสร้าง

วัน แบงค็อก พลิกโฉมวงการอสังหาฯไทย ด้วยการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ ปักหมุด “เมืองกลางใจ” หรือ The Heart of Bangkok เมืองที่ใช้ใจสร้าง พร้อมเผยประสบการณ์ชอปปิ้งและไลฟ์สไตล์ระดับโลก เตรีย...

Responsive image

Indorama Ventures ออกหุ้นกู้ 1 หมื่นล้าน ตอกย้ำผู้นำธุรกิจยั่งยืน

Indorama Ventures ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ประกาศความสำเร็จในการระดมทุน 1 หมื่นล้านบาท ผ่านการออกหุ้นกู้สกุลเงินบาทให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนร...

Responsive image

Jitta ก้าวสู่ปีที่ 12 เดินหน้าแก้วิกฤตการเงิน หนุนคนไทยออมและลงทุนอัตโนมัติ

Jitta เข้าสู่ปีที่ 12 เติบโตอย่างแข็งแกร่งบนเป้าหมายที่จะสร้างนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนที่ง่ายและสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า...