ฟังทัศนะ Bill Gates : ปัญหาโลกร้อนแก้ไม่ได้หากขาดนวัตกรรม | Techsauce

ฟังทัศนะ Bill Gates : ปัญหาโลกร้อนแก้ไม่ได้หากขาดนวัตกรรม

Bill Gates มหาเศรษฐีอันดับ 5 ของโลก ได้ให้สัมภาษณ์ผ่าน Zero Podcast ของ Bloomberg ที่เผยแผร่เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา เกี่ยวกับมุมมองทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะช่วยควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กองทุนของเขาที่ลงทุนในพลังงานสะอาด ไปจนถึงกรณี Inflation Reduction Act ที่ถูกบัญญัติมาเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด และการขึ้นภาษีบางประเภทเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อในระยะยาว  โดยในบทความนี้ Techsauce ขอนำเสนอประเด็นที่น่าสนใจมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน

ภาพจาก : https://www.facebook.com/BillGates

การขอให้ผู้บริโภคใช้น้อยลง ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา 

ทุกภาคส่วนเศรษฐกิจทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นภาคการผลิต, ภาคอุตสาหกรรม, การขนส่งและคมนาคม, การเกษตร ฯลฯ ล้วนเป็นต้นเหตุของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สะสมมานานหลายทศวรรษ โดยที่ผ่านมาการรณรงค์เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว มักถูกส่งสารออกมาให้เราช่วยกันลด ละ เลิก หรือใช้ให้น้อยลง เพื่อรักษาสิ่งที่อยู่ไม่ให้เสียหายไปมากกว่า ซึ่ง Gates มองว่าเป็นวิธีที่เกิดขึ้นได้ยากมาก

ผมไม่คิดว่ามันสมเหตุสมผล ถ้าเราบอกให้ผู้คนเปลี่ยนวิถีชีวิตทั้งหมดของพวกเขา เพราะต้องคอยกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

Gates เชื่อว่า “การเปลี่ยนนิสัยของปัจเจกมนุษย์” ที่ทำให้พวกเขาสะดวกสบายน้อยลงเพื่อแก้ปัญหาระดับโลกเป็นสิ่งที่ยากเกินไป และถึงแม้จะมีคนที่ปรับเปลี่ยนได้ ก็ยังไม่เพียงพอต่อการลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อควบคุมปัญหาสภาพอากาศที่เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์อยู่ดี

และถึงแม้ว่า สมัยนี้ประเทศที่ร่ำรวย บริษัทที่ร่ำรวยจะจ่ายเงินเพื่อซื้อทางออกจากปัญหา ในที่นี้เขายกตัวเองอย่างว่าเขาต้องจ่ายเงินชดเชยถึง 9 ล้านดอลลาร์ต่อปีต่อปีกับโครงการด้านสภาพอากาศ แต่นั่นก็ไม่ได้มีส่วนในการแก้ไขปัญหาได้จริง ๆ ในระยะยาว การหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนผู้คนเป็นทางออกเดียวที่เป็นไปได้ "การแก้ปัญหาคือการหานักประดิษฐ์ที่สร้างบริษัทที่มีนวัตกรรมเหล่านี้"

Gates ชี้ให้เห็นถึงประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “ช่องว่างระหว่างต้นทุน” สำหรับทางเลือกของความพยายามในการพยายามที่จะช่วยให้โลกหรือส่วนต่างที่ต้องจ่ายมากกว่าเพื่อวันพรุ่งนี้  ตัวเขาเองได้พูดเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน เกี่ยวกับช่องว่างระหว่างต้นทุนของการทำบางสิ่งที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกับขั้วตรงข้าม หรือที่ Gates เรียกว่า Green Premium ยกตัวอย่างเช่น หากคุณโดยสารเครื่องบินที่ใช้น้ำมันเครื่องบินปกติ จะมีค่าใช้จ่าย 2.22 ดอลลาร์ต่อแกลลอน แต่หากคุณเลือกใช้เชื้อเพลิงชีวภาพแทน คุณจะต้องจ่ายประมาณ 5.35 ดอลลาร์ต่อแกลลอน 

Gates เคยตอบคำถามผ่านเว็บบอร์ด Reddit เกี่ยวกับ Green Premium ว่า หากผู้บริโภคหนึ่งคนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ราคาแพงกว่าที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลง นั่นดูเป็นการลงทุนที่แทบไม่ได้มีผลอะไร แต่หากมีผู้บริโภคจำนวนมากพอซื้อของพวกนั้น ความต้องการจะเพิ่มขึ้น และผลักดันให้ราคาสินค้าทางเลือกเหล่านั้นลงลง และจะทำให้ค่า Green Premium ลดลงด้วย

สร้างนวัตกรรมที่นำไปสู่ทางเลือกที่ดีกว่า 

Gates เชื่อว่าภาครัฐสามารถมีส่วนทำให้ค่า Green Premium ลดลงได้ ผ่านการใช้นโยบายลดราคาสินค้ารักษ์โลกและเพิ่มราคาสินค้าทั่วไปให้สูงกว่าเดิม เช่นเดียวกันกับองค์กรและนักลงทุนทั้งหลายก็สามารถช่วยกันลดค่าส่วนต่างตรงนี้ได้โดยการเลือกผลิตภัณฑ์หรือลงทุนในนวัตกรรมสีเขียว 

Gates เคยกล่าวว่า “นวัตกรรมไม่ใช่แค่การเขียนเช็คจ่ายเงิน” เทคโนโลยีสภาพภูมิอากาศ ไม่ใช่แค่เรื่องทางการเงินเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่มีต้นทุนสูงเกิดกว่าที่หลายคนคาดคิด

และถึงแม้ว่าสหรัฐฯจะออกพระราชบัญญัติ Inflation Reduction Act ในปี 2022 ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นร่างกฎหมายที่ใช้งบประมาณสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ นั่นก็ไม่อาจเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า การแก้ไขปัญหาสภาพอากาศจะกลายเป็นประเด็นสำคัญ เพราะการลงทุนในเทคโนโลยีนวัตกรรมนั้นมากับค่าใช้จ่ายจำนวนมาก หรือแม้แต่การกำหนดค่าใช้จ่ายในการก่อมลพิษ ซึ่งนั่นก็อาจจะมีปัญหาเมื่อผู้ตัดสินใจที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก * บทสัมภาษณ์นี้ถูกบันทึกไว้ก่อนที่ร่างกฎหมาย  Inflation Reduction Act จะผ่านการพิจารณา

โซลูชันตามความเห็นของ Gates คือ เทคโนโลยีในราคาเท่ากันหรือถูกลง แต่ส่งมอบคุณประโยชน์เดียวกันหรือมากกว่าเดิม ทำให้เขามีพยายามที่จะสร้างทางเลือกที่ว่าให้เป็นจริงเป็นจังอย่างต่อเนื่อง หากใครที่เคยอ่านหนังสือ How to Avoid A Climate Disaster ก็จะทราบถึงมุมมองที่ Gates นำเสนอทั้งสิ่งที่คนเราในฐานะพลเมืองและผู้บริโภคทำได้ บทบาทจากภาครัฐ รวมถึงบทบาทของภาคธุรกิจและนักลงทุนที่ควรทำ และโต้แย้งด้วยเหตุผลที่มีน้ำหนักว่า การบริจาคเงินจำนวนมากของเขาเป็นไปเพื่อการค้นหาโซลูชันที่ปลอดภัยกว่า Low-Waste มากกว่า

Without innovation, you will never solve climate change

ด้วยความต้องการจะลดส่วนต่างที่สังคมต้องเผชิญ  Gates ได้ก่อตั้ง Breakthrough Energy Ventures กองทุนไม่แสวงหาผลกำไรขึ้นในปี 2015 เพื่อลงทุนใน Startup ช่วง Early stage ที่ทำนวัตกรรมพลังงานสะอาด โดยบริษัทนั้น ๆ นอกจากต้องดึงดูดนักลงทุนได้แล้ว จะต้องสามารถสร้างนวัตกรรมที่มีศักยภาพในการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างน้อยครึ่งกิกะตันทุกปีได้

เป้าหมายของ BEV ถูกตั้งขึ้นเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ โดยกองทุนเองก็มีผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการที่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้ง และพร้อมจะสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ทั้งทางด้านเทคโนโลยี การดำเนินธุรกิจ การค้นคว้าและวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรม เพื่อความพยายามลดค่า Green Premium ลงให้ได้ ปัจจุบันภายใต้ BEV มีบริษัทสตาร์ทอัพในเครือเกือบ 60 แห่งด้วยกัน 

โดยระหว่างการสัมภาษณ์ Gates แย้มว่ากองทุนของเขาจะระดมทุนรอบที่สามในปีหน้าเพื่อเดินหน้าลงทุนและเร่งการพัฒนา Climate Startups เหล่านี้ต่อไป แม้ตอนนี้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกรวมถึงการลงทุนในบริษัทด้าน Climate Tech จะซบเซาลง

Gates หวังว่างานของเขากับ BEV จะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก และทำให้โลกขยับเข้าใกล้ชิดกับ โลกที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ มากขึ้น หวังว่าทุกภาคส่วนจะสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมและจัดการความท้าทายที่ทุกคนต้องเผชิญไปพร้อมๆกัน

อ้างอิง : 

Sign in to read unlimited free articles

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เส้นทางของ Kakao จากสตาร์ทอัพสู่หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลแถวหน้าในอุตสาหกรรมบันเทิง

สตาร์ทอัพที่เริ่มต้นด้วยคนเพียง 2 คน สู่อาณาจักรไอทียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ บทความนี้ Techsauce จะชวนดูความสำเร็จของ ‘Kakao’ บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 24.7 ล้านล้านวอน หรือราว 6.7 ...

Responsive image

เจาะกลยุทธ์ ‘ปรับแต่ไม่เปลี่ยน’ ที่ IKEA ร้านเฟอร์นิเจอร์เก่าแก่เอาตัวรอดในยุคดิจิทัล

กลยุทธสำคัญอย่าง ‘ปรับแต่ไม่เปลี่ยน’ ที่ทำให้ IKEA สามารถรักษาเอกลักษณ์อันโดดเด่นของบริษัท ไปพร้อมกับการปรับตัวท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง...

Responsive image

ทำไมนวัตกรรมถึงสำคัญกับองค์กร และสำคัญมากยิ่งขึ้นในยุค AI

ถ้าเราใช้วิธีเก่า ในการแก้ปัญหาใหม่ หรือถ้าเราใช้โมเดลธุรกิจเดิม กับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลลัพธ์จะออกมาไม่ดีนัก และทางออกของปัญหาที่เราอยากชวนทุกคนมารู้...