ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาคการเกษตรของไทย คือองค์ประกอบหลัก ๆ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพราะเป็นแหล่งทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ โดย GDP ภาคการเกษตรของไทย สูงถึง 1.38 ล้านล้านบาท ในปี 2564 และการเกษตรนี้ทำให้เกิดการจ้างงานสูงกว่าร้อยละ 30 ของกําลังแรงงานทั้งประเทศ ครอบคลุมถึง 6.4 ล้านครัวเรือน และที่ดินทำการเกษตรครอบคลุมถึงร้อยละ 40 ของพื้นที่ทั่วประเทศ
แต่จากงานวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทย กลับพบว่า ภาคเกษตรกลับมีสัดส่วนในมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเพียงร้อยละ 9 โดยมีอัตราการเติบโตที่ช้าและความเปราะบางสูงกว่าภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ
การนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยในด้านการเกษตร หรือที่เรียกว่า AgriTech ที่มาจากคำว่า Agriculture (การเกษตร) และคำว่า Technology (เทคโนโลยี) จะช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต รวมถึงช่วยให้การทำงานของเกษตรกรง่ายและสะดวกขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้เกษตรกรสามารถเพิ่มมูลค่าหรือเพิ่มคุณภาพ ช่วยควบคุมคุณภาพสินค้า และช่วยในการวางแผนเพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้
จะเห็นว่าปัจจุบันนี้ประเทศต่าง ๆ เริ่มปรับตัวมาลงทุนด้านการเกษตรกันมากขึ้น อย่างเช่น สิงคโปร์ ประเทศที่ถึงแม้จะมีพื้นที่ไม่มากพอให้ทำการเกษตร แต่สิงคโปร์ก็มีนโยบายการสนับสนุน AgriTech ให้เอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านเกษตรอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเทคโนโลยีที่น่าสนใจเช่น การทำระบบเกษตรแนวตั้ง (Vertical farm system) ที่ใช้พื้นที่น้อยแต่สามารถสร้างผลผลิตได้อย่างน่าพอใจ
เช่นเดียวกันกับประเทศไทยที่นับว่าเป็นประเทศเกษตรกรรม ก็มีทั้งทางภาครัฐและเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมให้เกษตรกรไทยเร่งเดินหน้าด้วยเทคโนโลยีมากขึ้นแล้วในปัจจุบัน อย่างทาง depa ที่มีนโยบายในการผลักดันการใช้นวัตกรรมในทุก ๆ ภาคส่วนโดยเฉพาะภาคเกษตรกรรม มีการสนับสนุนสตาร์ทอัพด้าน AgriTech ให้เข้าไปช่วยเกษตรกรชาวไทยให้สามารถสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพออกมาให้ผู้บริโภค จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยเรามีสตาร์ทอัพ AgriTech เพิ่มมากขึ้น มีนวัตกรรมที่ครอบคลุมในหลากหลายด้าน ทั้งการช่วยตรวจสอบและคาดการณ์สภาพอากาศผ่านดาวเทียม การใช้โดรนมาช่วยในการทำแปลงเกษตร ยังรวมไปถึงการนำเอาพลังงานทางเลือกมาใช้แทนพลังงานไฟฟ้า และการใช้งานเทคโนโลยี BioTech มาพัฒนาสายพันธุ์พืชและปรับสภาพดินด้วยเช่นกัน
ในช่วงที่ผ่านมาเราได้เห็นหน้าตาของธุรกิจหน้าใหม่ ที่เรียกได้ว่าเป็น AgriTech คือ ธุรกิจที่สร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อช่วยฟื้นฟูด้านเกษตรกรรม ทั้งนวัตกรรมโดรน การใช้ดาวเทียมสำรวจพื้นที่และตรวจสอบสภาพภูมิอากาศ และหนึ่งในเจ้าที่น่าสนใจคือ AXONS ผู้พัฒนา แอปพลิเคชันสำหรับเกษตรกร ที่เรียกว่า For Farm by AXONS เป็นแอปฯ จัดการฟาร์ม สำหรับให้ข้อมูลรอบด้านแก่เกษตรกร ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนเพาะปลูก การตรวจสอบสภาพอากาศทำให้สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า การคำนวณผลผลิต ไปจนถึงราคารับซื้อ และนอกจากนี้บนแพลตฟอร์มยังร่วมมือกับสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสามารถเชื่อมต่อกับสหกรณ์ได้โดยตรง และสหกรณ์ก็มีข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือของเกษตรกร
นอกจากแอปฯ For Farm by AXONS แล้ว AXONS ยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำด้าน AgriTech (เกษตรเทคโนโลยี) ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาซอฟต์แวร์ และสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของบริษัทชั้นนำอย่างบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) มากว่า 40 ปี โดยเป็นบริษัทแรก ๆ ของไทยที่พัฒนาซอฟต์แวร์ในภาคเกษตรอุตสาหกรรมตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ที่ช่วยควบคุมตั้งแต่ต้นน้ำที่เป็นการผลิต ไปจนถึงปลายน้ำที่เป็นการส่งต่อสินค้าไปถึงมือผู้บริโภค คือ AXONS Trace ระบบที่ใช้สำหรับตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของอาหารและสินค้าโดยนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูลและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
สำหรับแอปพลิเคชัน For Farm by AXONS เป็นหนึ่งแพลตฟอร์มที่แทบจะรวมเอาหลายฟีเจอร์ที่สำคัญมาไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้ผู้ใช้สะดวกกับการใช้งาน การพัฒนาแอปฯ ตัวนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของ AXONS ที่ต้องการจะนำเทคโนโลยีเข้ามาพลิกโฉมคุณภาพชีวิต ยกระดับไทยให้เป็น “เกษตรเทคโนโลยี” เพื่อนำไปสู่ระดับโลก
และหลังจากที่ทาง AXONS เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมกับแนวคิด “Driving future for lives ขับเคลื่อนอนาคตสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” เตรียมเดินหน้ายกระดับเกษตรกรรมของไทยให้ไปได้ไกลกว่าเดิม พร้อมสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้สนใจด้านการเกษตร นำเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานในระดับโลกเข้ามาช่วยให้การเพาะปลูกมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงโอกาสในการต่อยอดธุรกิจต่อไปอีก
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเกษตรไปในหลากหลายรูปแบบมาตอบรับกับความต้องการของเกษตรกร แต่ประเทศไทยยังขาดพื้นที่ที่กว้างพอให้เกษตรกรจากหลากหลายวงการเข้ามาเจอกัน เกษตรกรยังขาดพื้นที่ที่จะได้พบกับคู่ค้า และลูกค้าในเวลาเดียวกัน
ทำให้เกิดแนวคิดที่จะพัฒนาไปสู่ “Open Platform” ที่เปิดโอกาสให้เกษตรกร ลูกค้า และคู่ค้าเข้ามามีส่วนร่วมในการขยายเครือข่ายและเติบโตควบคู่ไปด้วยกัน ในอนาคตเราอาจจะได้เห็น แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มที่มีฟีเจอร์ครอบคลุม เกษตรกรจะสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ง่าย ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือ เกษตรกรรายเล็ก ๆ จะสามารถขยายธุรกิจ ต่อยอดความคิดบนแพลตฟอร์มได้อย่างอิสระ และจะเป็นผลดีต่อประเทศที่จะช่วยเสริมศักยภาพเศรษฐกิจดิจิทัล และจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทย
ปัจจุบัน AgriTech เป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ เป็นผลมาจากจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มสูง แต่พื้นที่ทำการเกษตรกลับลดลง รวมถึงผู้คนให้ความสนใจเรื่องคุณภาพอาหารเพิ่มมากขึ้น ทำให้เทคโนโลยีมีบทบาทมากขึ้น ทั้งในการผลิตพืชผลการเกษตร การทำฟาร์มปศุสัตว์ และการแปรรูปอาหาร ตลอดห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจอาหาร โดยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเกษตรระดับโลกมีมูลค่าถึง 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตถึง 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบัน AXONS เองก็ได้ขยายสู่ต่างประเทศ จนครอบคลุมการให้บริการใน 17 ประเทศทั่วโลก ในการออกแบบโซลูชันที่จะเป็นผู้ช่วยดูแลคุณภาพอาหารและคุณภาพชีวิตของผู้คน ตั้งแต่ฟาร์มถึงโต๊ะอาหารให้กับประชากรทั่วโลกกว่า 10,000 ล้านคน ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
บทความนี้เป็น Advertorial
Sign in to read unlimited free articles