Nikkei Asia รายงาน Startup ในอาเซียนยอมทุ่มเงินค่าจ้างให้ตำแหน่ง Business Development (BD) และ Sales เพิ่มขึ้นถึง 20% ชี้ให้เห็นว่าธุรกิจพยายามสร้างเงินสด ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อการระดมทุน
ปี 2023 เงินเดือนของพนักงานตำแหน่ง Business Development และ Sale เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2% จากปีก่อนหน้า เหนือตำแหน่งสำคัญอื่นๆ ในธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น วิศวกรรม การตลาด ข้อมูล และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (product development)
หน้าที่ของ Business Development หรือนักพัฒนาธุรกิจคือการยกระดับธุรกิจขององค์กร ทั้งยอดขาย โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ และช่วยวางแผนประกอบกับพัฒนา Business Model ขององค์กร โดยต้องมีทักษะรอบด้าน ทั้งการวิเคราะห์ ด้านการตลาด ความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนั้นยังต้องมี Soft Skills ที่สามารถนำเสนอแผนธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็น การพูด การนำเสนอ ที่ต้องมาพร้อมภาพลักษณ์ที่ดูดีและทักษะมนุษยสัมพันธ์โดดเด่น
รายงานประจำปีที่จัดทำโดย Glints และ Monk's Hill Ventures วิเคราะห์ข้อมูลการรับสมัครงานในแพลตฟอร์มของ Glints กว่า 10,000 ตำแหน่ง ของบริษัท Startup ที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม นอกจากนั้นยังใช้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ Early-stage startup อีกกว่า 70 เจ้าในภูมิภาค
ในขณะที่บริษัทกำลังทุ่มเงินให้ตำแหน่ง Business Development และ Sale ตำแหน่งที่มีการปรับลดเงินเดือนมากที่สุดคือ พนักงานในแผนกวิศวกรรม เพราะเจอกับพิษเศรษฐกิจที่ทำให้บริษัทตัดสินใจใช้มาตรการลดต้นทุน รวมถึงกระแสเลิกจ้างพนักงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลก ทำให้มี Tech Talent ว่างงานมากขึ้น แต่เงินเดือนน้อยลง
ปี 2023 เงินเดือนวิศวกรลดลง 2% โดยตำแหน่งงานระดับ Junior ลดลงต่ำที่สุดถึง 6% แต่ยังคงเป็นตำแหน่งที่ได้ค่าตอบแทนดีที่สุด โดยตำแหน่งรองประธานฝ่ายวิศวกรรมมีเงินเดือนเฉลี่ย 193,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.9 ล้านบาท) ตามมาด้วยตำแหน่งรองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์และฝ่ายข้อมูล ที่ได้ค่าตอบแทน 170,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.1 ล้านบาท) และ 158,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.6 ล้านบาท) ตามลำดับ
ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วง Funding Winter หรือช่วงเวลายากลำบากในการระดมทุนของธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยจำนวนดีลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลงไป 30% จาก xxx เหลือ 718 ดีล ส่วนด้านมูลค่านั้นลดฮวบกว่าครึ่งหนึ่ง โดยมีมูลค่ารวมเพียง 7,960 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
ส่วนประเทศไทย Techsauce ได้ติดตามสถานการร์การระดมทุนในปีที่ผ่านมา พบว่า การระดมทุนของ Startup ไทยในปี 2023 ลดลงจากปี 2022 อย่างเห็นได้ชัด ทั้งในด้านของจำนวนดีลและมูลค่าการลงทุน โดยมีทั้งหมด 24 ดีล (โดยบางดีลเป็นบริษ้ทในกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ของไทย) ลดลงเกือบเท่าตัวจาก 42 ดีลในปี 2022 ขณะที่เม็ดเงินการลงทุนลดลงจาก 568.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20,188 ล้านบาท) เหลือ 521.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 18,506.15 ล้านบาท
อ่านรายงานสรุปภาพรวมสตาร์ทอัพไทยปี 2023 ฉบับเต็ม : https://techsauce.co/tech-and-biz/startup-thailand-2023-wrapped-trend-2024
ด้วยสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจและการระดมทุนที่ยากมากขึ้น ทำให้ Startup ต้องรัดเข็มขัด แม้แต่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง Lazada ก็ได้รับผลกระทบ ต้องลดพนักงานลงถึง 30% ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเดือนที่ผ่านมา
หากมองภาพใหญ่ บริษัท Startup กว่า 40% ได้ลดต้นทุนการจ้างพนักงานในปีที่ผ่านมา มีเพียงบริษัทในสิงคโปร์เท่านั้นที่ดูสดใสกว่าที่อื่น มีการปรับเพิ่มเงินเดือน 5% ในขณะที่อินโดนีเซียและเวียดนามปรับลด 3%
อ้างอิง : Nikkei Asia , Jobsdb
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด