Amazon ยักษ์ใหญ่ E-Commerce ของสหรัฐฯ เตรียมบุกธุรกิจค้าปลีกที่มีหน้าร้าน โดยมีแผนจะเปิดร้านค้าปลีกขนาดใหญ่หลายสาขา ดำเนินการคล้ายคลึงกับห้างสรรพสินค้า จุดประสงค์ของการเปิดร้านค้าปลีกครั้งนี้เป็นไปเพื่อจะขยายช่องทางการเปิดขายสินค้าประเภทเสื้อผ้า ของใช้ครัวเรือน และเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มอื่น ๆ มากขึ้น

แผนการเปิดร้านค้าขนาดใหญ่ครั้งนี้เป็นหมุดหมายสำคัญของ Amazon จากเดิมที่เป็นเจ้าตลาดแพลตฟอร์ม E-Commerce นำมาสู่การกลับเข้ามาแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกแบบมีหน้าร้าน ซึ่งเป็นพื้นที่การแข่งขันที่ Amazon ได้หยุดชะงักลงเมื่อนานมาแล้ว ภายหลังจากที่มีรายงานการเปิดห้างสรรพสินค้าของ Amazon ได้ส่งผลให้ราคาซื้อขายหุ้นของคู่แข่งห้างสรรพสินค้ารายใหญ่  ไม่ว่าจะเป็น Target, Bed Bath & Beyond และ Best Buy ตกลงราว 1.5% ขณะที่ราคาซื้อขายหุ้นของ Walmart ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกปรับลงราว 1% 

คาดการณ์ว่าห้างสรรพสินค้าของ Amazon สาขาแรกจะตั้งอยู่ในรัฐโอไฮโอ และแคลิฟอร์เนีย โดยจะมีพื้นที่ประมาณ 2,800 ตารางเมตร ซึ่งคิดสัดส่วนเป็น 1 ใน 3 ของขนาดห้างสรรพสินค้าทั่วไปในสหรัฐฯ การเปิดห้างสรรพสินค้าครั้งนี้จะช่วยให้ลูกค้าของ Amazon ได้รับประสบการณ์การซื้อขายอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะการทดลองสินค้าก่อนซื้อจริง ในผลิตภัณฑ์จำพวกเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Amazon ได้เข้าซื้อกิจการ Whole Foods Market เชนซูปเปอร์มาร์เก็ตพรีเมียม เพื่อใช้เป็นแพลตฟอร์มในการขยายฐานลูกค้า และล่าสุดในปี 2020 Amazon ก็ได้เปิดตัวร้านสะดวกซื้อราคาถูกที่มีชื่อว่า Amazon Go ถือได้ว่าเป็นการสั่นสะเทือนธุรกิจค้าปลีกภายในประเทศด้วยเทคโนโลยีค้าปลีกรูปแบบใหม่ เช่น การหยิบสินค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านช่องแคชเชียร์ เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าเลือกสินค้าได้ตั้งแต่ในแอปพลิเคชัน Amazon เป็นต้น